พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ทั่วไทย มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น
พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุ ประเทศไทยตอนบน มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ขณะที่ ภาคใต้ตอนกลางมีฝนเพิ่มขึ้น กับฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
รายงานสภาพอากาศอีก 7 วันข้างหน้า จาก "กรมอุตุนิยมวิทยา" ระบุ "พยากรณ์อากาศ" ระหว่างวันที่ 13 - 19 พฤศจิกายน 2565 คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 13 – 19 พ.ย. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดความชื้นจากทะเลเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านบริเวณภาคใต้ตอนกลาง และมีหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมช่องแคบมะละกาจะเคลื่อนลงสู่อ่าวเบงกอลและทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนกลางมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนเกษตรกรควรระมัดระวังและป้องกันความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วยตลอดช่วง สำหรับในช่วงวันที่ 11 – 18 พ.ย. 65 ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
"กรมอุตุนิยมวิทยา" ยังให้รายละเอียด "พยากรณ์อากาศ" ถึงข้อควรระวัง ระหว่างวันที่ 13 - 19 พฤศจิกายน 2565 ระบุว่า
ภาคเหนือ
ในวันที่ 13 พ.ย. 65 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม. บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6 - 14 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 19 พ.ย. 65 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
ในวันที่ 13 พ.ย. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 19 พ.ย. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในวันที่ 13 พ.ย. 65 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 พ.ย. 65 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนมากทางตอนกลางของภาค
และในช่วงวันที่ 17 – 19 พ.ย. 65 ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในวันที่ 13 พ.ย. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 19 พ.ย. 65 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส