"คาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ" รอง มทภ.4 แจงชัดรถคาร์บอมบ์ไม่ได้แจ้งหาย-ถูกปล้น

"คาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ" รอง มทภ.4 แจงชัดรถคาร์บอมบ์ไม่ได้แจ้งหาย-ถูกปล้น

รองแม่ทัพภาคที่ 4 แจงชัดเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ นราธิวาส รถที่ใช้คาร์บอมไม่ได้แจ้งหายหรือถูกปล้น พร้อมยกระดับความปลอดภัยสูงสุด

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 65 เจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่และขนย้ายซากรถยนต์ ที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดเพื่อคืนสภาพพื้นที่ให้เร็วที่สุด ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงยืนยันรถคาร์บอมไม่ได้แจ้งหายไม่ได้ถูกขโมยชัดเจนมีการจงใจให้หลุดการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่

โดยเบื้องต้นพบว่ารถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู รุ่นดีแม๊กซ์ ทะเบียน กค 6961 ตรัง โดย เมื่อวันที่ 6 ต.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้ออกใบสั่งข้อหาขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาต ที่บริเวณทางหลวงแยกสะปอม ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส และล่าสุดใบสั่งดังกล่าวยังไม่ได้เสียเงินค่าปรับ จำนวน 400 บาท
 

สอดคล้องข้อมูลที่ พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่ารถไม่ได้เเจ้งหาย หรือปล้นมา โดยผู้ครอบครองรถมีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยได้นำรถยนต์มาขายให้เต็นท์รถแห่งหนึ่งใน อ.เมืองตรัง เมื่อปี 2564 ก่อนที่เต็นท์รถจะนำไปขายต่อที่ จ.พัทลุง ซึ่งมีผู้พบเห็นรถคันนี้ครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 65 เวลา 16.52 น. รถขับผ่านด่านตรวจ ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส โดยมีผู้หญิงเป็นผู้ขับขี่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่จึงพยายามติดต่อหญิงสาวคนขับรถเข้าพื้นที่เพื่อมาให้ข้อมูล
 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นความรุนแรงอีกครั้งของจังหวัดนราธิวาส ที่ผ่านมาเกิดเหตุความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่กรณีคนร้ายก่อเหตุโดยใช้คาร์บอมครั้งนี้นับเป็นความรุนแรงในรอบ 6 ปี และที่สำคัญอานุภาพของระเบิดครั้งนี้ถือว่าสมบูรณ์มาก ทำให้ความเสียหายหนักหน่วง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าจุดที่คนร้ายนำรถมาจอดนั้นเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่เอื้อให้แรงอัดระเบิดรุนแรง

ล่าสุดแม่ทัพภาคที่ 4 สั่งยกระดับความปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้มข้นยิ่งขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน