จับ "มายด์ วรัญรภัสส์" เน็ตไอดอล ปมหลอกลงทุนซื้อขายทองแท่งเสียหาย 200 ล้าน
เจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาล IDMB นำกำลังจับกุมเน็ตไอดอล "มายด์ วรัญรภัสส์" ฐานฉ้อโกงจากการหลอกคนลงทุนทองคำผ่านเฟซบุ๊กก่อนเบี้ยวเงิน ซึ่งมูลค่าเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่สืบสวนนครบาล IDMB นำกำลังจับกุมเน็ตไอดอล "มายด์ วรัญรภัสส์" ฐานฉ้อโกงจากการหลอกคนลงทุนทองคำผ่านเฟซบุ๊กก่อนเบี้ยวเงิน ซึ่งมูลค่าเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้ภายในคอนโดแห่งหนึ่งย่านถนนประชาราษฏร์ เขตบางซื่อ
โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้ติดตามจับกุมตัว น.ส.วรัญรภัสส์ หรือ มายด์ เน็ตไอดอลสาววัยอายุ 30 ปี ภูมิลำเนา จ.สงขลา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2561 "มายด์ วรัญรภัสส์" และพวก ได้ร่วมกันหลอกลวงประชาชน โดยการตระเวนโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ (เฟซบุ๊ก) มีการชักชวนประชาชนมาร่วมลงทุนซื้อขายทองคำแท่ง โดยอ้างว่ามีทองคำแท่งราคาต่ำกว่าราคาตลาด แล้วมีการขายเอากำไรเป็นทอดๆ
ช่วงแรกได้กำไรจากเงินส่วนต่างจริง แต่หลังจากนั้นเมื่อบรรดาผู้เสียหายเกิดความเชื่อใจ ใช้อุบายหลอกลวงเพื่อให้ผู้เสียหายระดมเงินมาลงทุนก้อนใหญ่ ซึ่งจากนั้นก็ไม่ได้รับทองคำหรือกำไรตามที่แจ้ง ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายได้รับความเสียหายทั่วประเทศ ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้หลายแห่ง
น.ส.วรัญรภัสส์ หรือ มายด์ ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 200,000 คน ก่อนที่เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้รวบรวมหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับเข้าควบคุมตัวซึ่งในเบื้องต้น เจ้าตัวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และเปิดเผยว่า ปัจจุบันตนเองทำงานเป็นโมเดลลิ่ง พร้อมเล่าย้อนเหตุการณ์เมื่อปี พ.ศ.2561 ว่าตนเองนั้นตกเป็นผู้เสียหายเหมือนกัน โดยระบุว่า มีหน้าที่ชักชวนให้ผู้เสียหายมาลงทุนและรับเงินเพื่อที่จะโอนต่อให้กับหัวหน้าขบวนการโดยจะหักกำไรไว้บางส่วน จึงทำให้ต้องถูกดำเนินคดีไปด้วย
เธอยังระบุว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา มีการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาและขึ้นศาลหลายแห่ง ส่วนหัวหน้าขบวนการนั้นได้ถูกจับกุมไปแล้ว แต่ไม่มีการชดใช้เงินให้กับผู้เสียหายแต่ยอมรับโทษจำคุก
ทั้งนี้ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. และจะต้องมีการสอบสวนขยายผลต่อไป