ชุดสางคดี “ตู้ ห่าว” เรียกสอบ ตม. “พัชรินทร์” พบ ตร.ให้ข้อมูลทุกเรื่อง
เรียกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้ปากคำ 3 ประเด็น ด้าน “พัชรินทร์” นอมินี “ตู้ ห่าว”ให้ปากคำหาความเชื่อมโยง ทั้งที่มาทรัพย์สิน-เส้นทางการเงิน และการทำธุรกิจ หากพบความผิดเตรียมดำเนินคดี
พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ชุดคลี่คลายคดีธุรกิจทุนจีนสีเทา เปิดเผยว่า วันนี้ ได้เชิญตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ รวม 26 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมภายในผับจินหลิง ย่านยานาวา ใน 3 ประเด็นหลัก คือ การต่อวีซ่าให้กลุ่มคนจีน เป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ กลุ่มคนจีนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับอาชญากรรม เช่น คดีตัดนิ้วที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และ กลุ่มคนจีนที่ปรากฎชื่อในกลุ่มธุรกิจสีเทาทั้งหมด
“วันนี้จะเป็นการสอบสวนให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริง ยังไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ใด แต่หากภายหลังพบความผิด จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาต่อไป”
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุอีกว่า นอกจากนี้วันนี้ยังได้เชิญ นางพัชรินทร์ ที่มีข้อมูลว่า เป็นนอมินีของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าว มาให้ปากคำ เกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับนายตู้ห่าว รวมถึง ประเด็นที่มาของทรัพย์สิน เส้นทางการเงิน การทำธุรกิจ ซึ่งเบื้องต้น นางพัชรินทร์ ประสานจะเข้าให้ปากคำกับตำรวจช่วงบ่ายนี้ ซึ่งหากภายหลังพบว่า มีการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดี พร้อมยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พ.ต.อ.ภาคภูมิเปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้จะมีการเชิญอดีตตำรวจ ระดับสารวัตร พี่ชายของนางพัชรินทร์ ที่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทในธุรกิจของายตู้ห่าว รวมทั้งนางสาวสุชาดา ที่เป็นหนึ่งกรรมการบริษัท มาสอบปากคำวันพฤหัสที่ 8 ธันวาคมนี้ พร้อมยืนยันว่า ตำรวจจะสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้แล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ เพื่อรวบรวมผลให้คณะทำงานชุดใหญ่ต่อไป
“พัชรินทร์” พบ ตร. ให้ข้อมูลทุกเรื่อง
มีรายงานล่าสุดนางพัชรินทร์ พร้อมทนายความได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลในกรณีที่มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัท โดยมีนายตู้ห่าวเป็นประธานกรรมการ ระบุพร้อมให้ข้อมูลกับตำรวจส่วนรายละเอียดจะให้ทนายเป็นผู้ชี้แจง
ด้านนายทวีศักดิ์ บุญธรรม ทนายความ เปิดเผยว่า นางพัชรินทร์ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีทุนจีนสีเทาไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 ครั้ง โดยเป็นการชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัทรวมทั้งที่มาของทรัพย์สินในการทำธุรกิจ ส่วนครั้งนี้นางพัชรินทร์ได้เดินทางมาเป็นครั้งที่ 3 พร้อมกับยืนยันว่ายินดีที่จะให้ข้อมูลกับตำรวจทุกเรื่อง