โดนแล้ว! 3 นายพล "พล.ต.ต." ออกวีซ่าเอื้อทุนจีนสีเทา ขีดเส้น 15 วันรู้ผลสอบ
งานเข้า 3 นายพล ยศ "พล.ต.ต." ออกวีซ่าเอื้อทุนจีนสีเทา โดนแล้วขีดเส้น 15 วันรู้ผลสอบ ผบ.ตร.ไฟเขียวแล้ว
ผบ.ตร. เซ็นตั้ง จเรตำรวจ สอบปมชูวิทย์เปิดข้อมูลพาดพิง 3 พล.ต.ต. เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กโจ๊ก” ออกวีซ่าเอื้อทุนจีน ขีดเส้นรายงานผล 15 วัน
จากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เปิดแถลงข่าวนำเสนอข้อมูลแฉกลวิธีขออยู่เมืองไทยระยะยาวของกลุ่มคนจีนที่เดินทางเข้ามาแฝงตัวทำธุรกิจสีเทาในประเทศไทย โดยใช้วิธีการแปลงวีซ่าจากนักท่องเที่ยว ผ่านทางมูลนิธิบางแห่ง
ซึ่งนายชูวิทย์ อ้างว่าขบวนการดังกล่าวมีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สตม. พัวพันไปถึงนายตำรวจยศ พล.ต.ต.จำนวน 3 คน ซึ่ง 2 ใน 3 คนนั้น เป็นเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 47 รุ่นเดียวกันกับ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้กล่าวยืนยันแล้วว่าแม้นายตำรวจที่ถูกนายชูวิทย์พาดพิงถึงจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นก็ตาม ก็จะดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีละเว้นนั้น
ล่าสุด มีรายงานว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 581/2565 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2565 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ใจความว่า
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อสังคมออนไลน์และสื่อออนไลน์หลายช่องทาง เช่น Matichon Online Thairath Online Nation Online รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้แถลงข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจลงตรา (Visa) ของข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในห้วงปี พ.ศ. 2563-2564 ว่ามีลักษณะที่อาจเป็นการเอื้อประโยชน์หรืออำนวยความสะดวกต่อบุคคลบางกลุ่มหรือไม่นั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565
จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้
1.พลตำรวจโทวีระ จิรวีระ รองจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ 9) เป็น ประธานกรรมการ
2.พลตำรวจตรีภรศักดิ์ นวนหนู รองจเรตำรวจ (สบ 7) เป็น กรรมการ
3.พลตำรวจตรีเจนกมล คำนวล ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ
4.พันตำรวจเอกโอภาส ทั่งทอง รองผู้บังคับการกองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ
5.พันตำรวจเอกสุกรี สินเย็น ผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ
6.พันตำรวจโทไพโรจน์ เรืองทิพย์ รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 2 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ
7.พันตำรวจโทพงษ์ศักดิ์ เจียมศิริ สารวัตรฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 2 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็นกรรมการและเลขานุการ
8.พันตำรวจตรีหญิง นัฐชกร กองแก้ว สารวัตร ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ
9.ร้อยตำรวจเอกหญิง ปวีณา ฟุ้งตระกูล รองสารวัตร ฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 2 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการ
10.ร้อยตำรวจเอกภัทรชนน เพชรแอน รองสารวัตรฝ่ายสืบสวนและตรวจราชการ 1 กองตรวจราชการ 8 สำนักงานจเรตำรวจ เป็น กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
โดยให้มีหน้าที่และอำนาจในการรวบรวมข้อมูลและพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวและ พิจารณามีความเห็นว่ามีข้าราชการตำรวจรายใดเกี่ยวข้องและมีการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งของทางราชการ หรือไม่ อย่างไร เพื่อประกอบการพิจารณาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วรายงานผลให้ทราบภายใน 15 วัน