"บิ๊กโจ๊ก" แจง "ชูวิทย์" ไม่ไว้ใจ! เล็งสอบ 3 นายพล เพื่อน นรต.47
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือ "บิ๊กโจ๊ก" ไม่ถือเป็นอารมณ์ “ชูวิทย์” ออกมาตำหนิไม่ไว้ใจ เชื่อเป็นห่วงเรื่องคดีตู้ห่าว ส่วนหัวหน้าด่าน ตม. ร้องไห้จนมุมหลักฐานเอื้อวีซ่าจีน ข้อมูลชี้ ตม. 10 นายเข้าข่าย พร้อมเตรียมเชิญ 3 นายพลเพื่อนร่วมรุ่น นรต.47 ให้ปากคำ
จากกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาตั้งข้อหาสังเกตว่าตำรวจทำงานล่าช้าและมีเจตนาไม่ตั้งข้อหาฟอกเงินกับนายตู้ห่าวและพวกทำให้ไม่มั่นใจการทำงาน
วันที่ 10 ธันวาคม 2565 "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ยืนยันว่าจะต้องมีการตั้งข้อหาฟอกเงินกับตู้ห่าวอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานและประสานงานกับธนาคาร เรื่องข้อมูลเส้นทางการเงินเพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี ซึ่งการออกมาบอกว่า ไม่มั่นใจการทำงานนั้น ส่วนตัวไม่ได้โกรธหรือน้อยใจ เพราะเชื่อว่า นายชูวิทย์ มีความเป็นห่วง กังวลเกี่ยวเรื่องคดี
ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ ระบุนักท่องเที่ยวจีนที่ถูกจับที่ผับจินหลิงกว่า 200 คน แต่ผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วงเพียง 6 คนนั้น เชื่อว่าข้อมูลของ นายชูวิทย์ อาจคลาดเคลื่อน ซึ่งเป็นไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะมีปัสสาวะแค่ 6 คน เพราะการตรวจมีตั้งแต่วันแรกและนำผลเข้าประกอบสำนวนอยู่แล้ว
ดังนั้น ไม่มีใครสามารถไปเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดได้ พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้ ดังกล่าวตำรวจมีการขยายผลต่อเนื่องทุกวันและเมื่อวาน(9 ธ.ค.65) ได้มีการตรวจค้น 53 จุดทั่วประเทศ ส่วนใหญ่เป็นมูลนิธิที่มีความเชื่อมโยงกับการที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่า ซึ่งเรื่องดังกล่าวชุดทำงานของตนเองได้มีการออกหมายเรียก 27 หัวหน้าสถานีตรวจคนเข้าเมืองนำเอกสารและมาสอบปากคำเพิ่มเติม
โดยพบว่ามีความผิดอย่างชัดเจน เช่น การอนุมัติให้อยู่ต่อในประเทศ ถึงขั้นนายตำรวจระดับสารวัตรร้องไห้ กินข้าว ไม่ลงเพราะไม่สามารถชี้แจงเกี่ยวกับการออกวีซ่า เพราะชุดทำงานของตนเองมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว
ขณะนี้พบว่า มีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมากกว่า 10 นาย เข้าข่ายกระทำความผิด ซึ่งตรงนี้จะต้องดำเนินการอย่างจริงจัง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) ได้เชิญ พ.ต.อ.หญิง ภรรยาของนายตู้ห่าว มาให้ปากคำซึ่งพ.ต.อ.หญิง คนดังกล่าวได้เข้ามาพร้อมกับทนายความและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์สินของนายตู้ห่าว ส่วน 3 นายพลตำรวจ อดีตผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อนร่วมรุ่นนรต.47 จะเชิญมาให้ปากคำเร็วๆ นี้ หลังถูกพาดพิงเรื่องเอื้อวีซ่าทุนจีนด้วย
ส่วนกรณี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งตั้งจเรตำรวจและคณะกรรมการรวม 10 คน ขึ้นมาตรวจสอบ 3 นายพลนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตนเองได้มีการพูดคุยหารือกับ ผบ.ตร.แล้ว ซึ่งจเรตำรวจก็จะเป็นคณะกรรมการที่ตั้งมาสืบสวนสอบสวนเรื่องวินัยความผิดของตำรวจ ซึ่งหากพบว่ากระทำความผิดก็จะต้องถูกดำเนินการตามระเบียบ โทษร้ายแรงสุดคือไล่ออก ส่วนตนเองรับผิดชอบในคดีอาญา แต่การทำงานก็จะต้องทำคู่ขนานกันไป พร้อมยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย