เร่งเยียวยาเกษตรกรภาคใต้ หลังพบน้ำท่วม 5 จว. เสียหายกว่า 2.4 หมื่นไร่

เร่งเยียวยาเกษตรกรภาคใต้ หลังพบน้ำท่วม 5 จว. เสียหายกว่า 2.4 หมื่นไร่

“เฉลิมชัย” สั่งเร่งเยียวยาเกษตรกรภาคใต้หลังน้ำท่วมหนัก เผย 5 จังหวัดพื้นที่เสียหาย 2.4 หมื่นไร่ จำนวน 15,690 ราย

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยว่า  ขณะนี้ในหลายพื้นที่ภาคใต้มีผลตกหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ตอนล่าง ทำให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร และวิถีชีวิตของเกษตรกร

ทั้งนี้ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตร เร่งดำเนินการลงพื้นที่บูรณาการให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่เกษตรกรในเบื้องต้นแล้ว เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และเตรียมการสำรวจความเสียหายพื้นที่ทีหลังน้ำลด เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป
 

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ได้เร่งให้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว  ซึ่งเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือยังคงเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ในอัตราดังนี้

-ข้าว 1,340 บาทต่อไร่

-พืชไร่และพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่

- ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 4,048 บาทต่อไร่ ตามพื้นที่เสียหายจริงไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ทั้งนี้เป็นไปตามที่อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว

โดยเบื้องต้นได้รับรายงานพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง พัทลุง และสงขลา เกษตรกรได้รับผลกระทบ จำนวน 15,690 ราย

ทั้งนี้ มีพื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหายจำนวน 24,484.75 ไร่ แยกเป็นข้าว 5,376.75 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 3,347.00 ไร่ ไม้ผลไม้ผืนต้นและอื่นๆ 15,048.00 ไร่ (ข้อมูล ณ 12 ธันวาคม 2565)

นอกจากนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกรมส่งเสริมการเกษตรเตรียมการสำรวจและช่วยเหลือเกษตรกรรองรับภายหลังน้ำลด ทั้งการลงพื้นที่เพื่อสำรวจพื้นที่ความเสียหาย การเตรียมเชื้อราไตรคเดอร์มาควบคุมโรคพืช และการเตรียมผลิตพืชพันธุ์ดี ให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร

สำหรับการสนับสนุนเชื้อราไตรโคเดอร์มา  ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) จังหวัดสงขลา และศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะสนับสนุนหัวเชื้อชั้นขยาย จำนวน 7,000 ขวด

ซึ่งนำมาขยายเป็นเชื้อราไตรโคเดอร์มาพร้อมใช้ได้ถึง 105,000 กิโลกรัม และให้เชื้อราไตรโคเดอร์มาพร้อมใช้ อีกจำนวน 3,000 กิโลกรัม สามารถใช้ฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรหลังน้ำลดได้ประมาณ 108,000 ไร่ (เชื้อราไตรโคเดอร์มาพร้อมใช้ 1 กิโลกรัมสามารถใช้ได้กับพื้นที่ 1 ไร่)

ส่วนเชื้อราไตรโคเดอร์มา สามารถใช้ในการควบคุมโรคพืชได้หลายชนิด ทั้งบริเวณราก ลำต้น และใบ เช่น โรครากเน่าโคนเน่า โรคใบติดของทุเรียน โรคเน่าคอดิน โรคกาบใบแห้งของข้าว โรคเหี่ยว โรคแอนแทรคโนสของพริก เป็นต้น โดยเกษตรกรสามารถขอรับเชื้อราไตรโคเดอร์มา ได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด และศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) ในพื้นที่

นอกจากนี้ได้เตรียมผลิตพืชพันธุ์ดี ดำเนินการโดยศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 10 ศูนย์ และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร ภายใต้โครงการผลิตพืชพันธุ์ดีเพื่อสำรองในกรณีช่วยเหลือ ฟื้นฟู ดูแลเกษตรกรผู้ประสบภัย และใช้ในภารกิจของกรมส่งเสริมการเกษตร

ซึ่งได้ดำเนินการเพาะพันธุ์เตรียมพร้อมรับมืออยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะพืชพันธุ์ที่เกษตรกรนิยมเพาะปลูกและรับประทาน อาทิ พริก มะเขือเปราะ มะเขือเทศ มะเขือยาว มะเขือพวง กะเพรา แมงลัก กระเจี๊ยบเขียว กล้วยน้ำว้า มะละกอ ทุเรียน กาแฟ เป็นต้น