วอด 17 ล้าน! ไฟไหม้เรือโดยสารหรูเกาะภูเก็ต-พีพี
เรือโดยสารระหว่างเกาะภูเก็ต-พีพี ไฟไหม้โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ความเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 17 ล้านบาท
ร.ต.อ.วิชิต นกแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือเฟอร์รี่หรือเรือครุยส์หรูที่จอดเทียบท่าอยู่บริเวณท่าเทียบเรือซีแองเจิล ภายในท่าเรือองค์การสะพานปลาภูเก็ต ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเวลา 06.45 น.วันที่ 11 ธันวาคม 2565 หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น
จากนั้นจึงพร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต อานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการภูเก็ต, นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอเมืองภูเก็ต, นายณชพงศ ประนิตย์ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต , นายนครินทร์ ยอแสงรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำกำลังหน่วยดับเพลิงเทศบาลตำบลรัษฎา ,เทศบาลนครภูเก็ต ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ภูเก็ต ตำรวจน้ำภูเก็ต ศรชล.ภาค 3 และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รุดไปตรวจสอบและระงับเพลิง
ที่เกิดเหตุเป็นท่าเทียบเรือเอกชน ซึ่งอยู่ภายในคลองท่าจีน มีเรือท่องเที่ยวและเรือประมงจอดลอยลำตลอดแนวคลอง พบเรือเฟอร์รี่หรือเรือครุยส์ของเอกชนรายหนึ่งกำลังถูกเพลิงลุกไหม้อย่างหนักและรวดเร็วลุกลามไปเกือบทั้งเรือ หน่วยดับเพลิงต่างเร่งฉีดน้ำ เพื่อระงับเพลิงอย่างเร่งด่วน แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเรือลอยลำอยู่ห่างจากฝั่ง ทำให้การดับเพลิงไม่สามารถทำได้อย่างเต็มกำลังของแรงดันน้ำจากรถดับเพลิง
โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นเพลิงได้เผาไหม้ภายในเรือได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด เนื่องจากเป็นโชฟาและเก้าอี้ รวมถึงเสื้อชูชีพ โดยห้องเครื่องยนต์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุเบื้องต้น คาดว่ามาจากห้องกัปตันเรือและลุกลามไปยังภายในเรือด้านบนอย่างรวดเร็ว คาดว่าเสียหายกว่า 17 ล้านบาท
เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ณชพงศ ประนิตย์ กล่าวว่า เพลิงไหม้เรือซึ่งเป็นเรือโดยสารและนำเที่ยวระหว่างภูเก็ตกับพีพี จ.กระบี่ หลังรับแจ้งได้ประสานให้เจ้าของเรือและผู้ที่เกี่ยวข้องรีบแยกเรือลำอื่นๆ ออกจากบริเวณที่เรือลำที่เกิดเพลิงไหม้ และนำเรือออกจากฝั่ง สามารถดำเนินการได้ทันเวลา จึงไม่มีเรือลำอื่นได้รับความเสียหาย พร้อมกันนี้ก็ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการดับเพลิง
จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในส่วนความเสียหายทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เพลิงได้ไหม้ในส่วนด้านบนตัวเรือ ซึ่งมีเบาะนั่ง โซฟา เก้าอี้ และเสื้อชูชีพ ซึ่งเป็นวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
จากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า ต้นเพลิงเกิดจากห้องกัปตันเรือหรือห้องสะพานเดินเรือ ซึ่งมีการต่อไฟฟ้ามาจากบนฝั่งไปใช้ในเรือ เนื่องจากภายในเรือมีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้งานอย่าง เช่น พัดลมแบตเตอรี่ แสงสว่าง เป็นต้น คาดว่าน่าจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือบนเรืออาจจุดยากันยุงหรือเหตุผลอื่นๆ
สำหรับเรือลำนี้ตามใบอนุญาตจุนักท่องเที่ยวได้ 490 คน มีคนประจำเรือประมาณ 29- 30 คน ขณะที่เกิดเหตุบนเรือไม่มีนักท่องเที่ยวหรือผู้โดยสารแต่อย่างใด หลังจากนี้จะมีคำสั่งพักใช้เรือ และมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง