"ยากูซ่า" ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในไทย หลอกลวงจับขังทรมานให้โอนเงิน
ภัยใกล้ตัว "ยากูซ่า" ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในไทย หลอกลวงจับขังทรมานให้โอนเงิน โดนตั้ง 7 ข้อหาหนัก
ติดตามความคืบหน้าคดี 5 นักเลงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ญี่ปุ่น อ้างเป็นเจ้าหน้าที่เขต ลวงผู้สูงอายุประเทศเดียวกัน โอนเงินรับสิทธิ์ลดค่ารักษาพยาบาล ถูก ตร. แจ้ง 7 ข้อหาหนัก ส่งศาลอาญามีนบุรี คาดมีหัวหน้าแก๊งยากูซ่าร่วมทีม
จากกรณีตำรวจ สน.คันนายาว กทม. ร่วมกับตำรวจญี่ปุ่น เข้าจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชาวญี่ปุ่น 5 ราย พร้อมของกลาง เผยรายชื่อผู้เสียหาย ที่ประเทศญี่ปุ่น จึงมีการประสานสถานทูตญี่ปุ่น ชี้ นายโอกาวา อายุ 29 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตบางเขน เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันที่ 13 ธ.ค. 2565 เวลา 13.00 น. ที่สน.คันนายาว พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 เดินทางมาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี โดยมี พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.ท.ยงค์ยุทธ์ ประเสริฐผล รอง ผกก.ป.สน.คันนายาว พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.คันนายาว พ.ต.ท.วีระ งามเลิศ รอง ผกก.สอบสวน สน.คันนายาว เข้าร่วมประชุม
โดยเมื่อช่วงเช้า พนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นทั้ง 5 ราย ไปส่งศาลอาญามีนบุรี เพื่อฝากนำตัวฝากขัง
จากการสอบสวน ระบุ ผู้ต้องหาจะนำรายชื่อและข้อมูลเหยื่อชาวญี่ปุ่นมาให้ และโทรศัพท์ไปหลอกลวงผู้สูงอายุ ที่อยู่ประเทศญี่ปุ่น โดยหลอกว่าโทรมาจากเจ้าหน้าที่เขตส่งเอกสารส่วนลดสิทธิค่ารักษาพยาบาลไปที่บ้าน เมื่อเหยื่อตอบว่าไม่ได้รับ ก็จะขอข้อมูลส่วนตัว ชื่อ บัญชีธนาคาร และเบอร์มือถือจากเหยื่อผู้สูงอายุ
จากนั้น จะใช้วิธีให้ผู้ต้องหาอีกคน หลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารโทรไปหลอกให้ผู้เสียหายเดินไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม เพื่อให้ได้รับสิทธิค่ารักษาพยาบาลคืน และหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินออกจากบัญชี
นายคาวาบาตะ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 ผู้ต้องหา พบรอยสักจำนวนมาก ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นหัวหน้าแก๊งยากูซ่าในประเทศญี่ปุ่น มาสร้างเครือข่ายหลอกลวงในประเทศไทย
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้ง 7 ข้อกล่าวหาคือ
1.ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
2.ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ โดยพามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยว กักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคล โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับฯ ลักพาตัว
3. ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่ก็ทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตฯ
4. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพทางร่างกายฯ
5. ร่วมกันเป็นอั้งยี่
6. ร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
7. ไม่แจ้งที่พักอาศัยต่อเจ้าพนักงานตำรวจภายใน 24 ชั่วโม
ทั้งนี้ ประสานให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมารับดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป