รวบแล้ว "พัชรินทร์" ผู้ถือหุ้นบริษัท "ตู้ห่าว" อ่วมโดนหลายข้อหาหนัก

ความคืบหน้ากรณีการดำเนินคดีกับกลุ่มทุนจีนสีเทา สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ "ตู้ห่าว" ผู้ต้องหาคดียาเสพติด หลังเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นผับจินหลิงเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุดตำรวจนครบาลได้รวบตัว "พ.ต.อ.หญิง" ภรรยาของตู้ห่าว พร้อมพวก 7 คน ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และเตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 15 รายทั้งคนไทยและจีน

 

 

ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาลได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว น.ส.พัชรินทร์ อิทธิวัฒนา ที่ปรากฏชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทของ "ตู้ห่าว" โดย น.ส.พัชรินทร์ มีชื่อรองลงมาจากนายตู้ห่าว และ พ.ต.อ.หญิง ภรรยาของตู้ห่าว โดยสามารถจับกุมได้ที่แมนชั่นแห่งหนึ่งย่านคลองเตย ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.พัชรินทร์ ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับ "ตู้ห่าว" กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวในครั้งนี้

 

หลังการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 8 รายในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวไปแยกฝากขังตามโรงพักในท้องที่ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 6 เพื่อรอส่งฟ้องศาลต่อไป

 

โดยผู้ต้องหาที่เกี่ยวพันกับ "ตู้ห่าว" ทั้ง 8 ราย ที่ถูกจับกุมในวันนี้ ถูกแจ้งข้อหาดังนี้

 

ถูกจับกุมในข้อหา "ฟอกเงิน"

 

1. นางวัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ (ภรรยาตู้ห่าว)
2. นายฉัตรชัย ลาภอำนวยเจริญ
3. นายณัฐวุฒิ ศรีอ่อน
4. นายสิทธิกร ประภาจรัสวงศ์
5. นางสุรัสวดี ทองเพิ่มพลอย

 

 

ส่วน น.ส.พัชรินทร์ อิทธิวัฒนา , นายสิทธิพงษ์ ถือสัตย์เที่ยง และ นายสิทธิไพบูลย์ คำนิล ถูกจับกุมในข้อหา "สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันโดยมีลักษณะเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม , สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดก่อนหรือขณะกระทำความผิด , จัดหาหรือให้เงินหรือทรัพย์สิน ยานพาหนะ สถานที่ หรือวัตถุใดๆ เพื่อประโยชน์หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ , ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติและมีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว , ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ให้มีการสมคบกันนั้น