ภาคท่องเที่ยวตราด เผย จีนเปิดประเทศส่งผลดีต่อเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

ภาคท่องเที่ยวตราด เผย จีนเปิดประเทศส่งผลดีต่อเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตราด เผย จีนเปิดประเทศส่งผลดีต่อเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ทำให้ในพื้นที่มีเงินเพิ่มขึ้น มีเงินหมุนเวียนเพิ่มเงิน

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 น.ส.วรารัตน์ โชติวรรณ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตราด และผู้บริหารโรงแรมตราด ซิตี้ เปิดเผยว่า การที่ประเทศจีนจะเปิดประเทศ ในวันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นเรื่องที่ดีต่อประเทศไทยอย่างมาก ซึ่งไทยเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว เป็นอันดับที่ 3 คาดว่าปลายเดือนมกราคมไปจนถึงเมษายน 2566 จะมีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางเข้ามาเรื่อยๆ และในส่วนจังหวัดตราด ซึ่งเป็นเมืองรอง กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่จะมาแบบครอบครัว หรือมาแบบส่วนตัวมากกว่า ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์ มักเดินทางไปยังจังหวัดเมืองหลัก เช่น ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่

นางวรารัตน์ กล่าวว่า แม้จะจังหวัดตราดจะได้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนแบบครอบครัวและแบบส่วนตัว แต่ทั้ง 2 กลุ่ม เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ใช้จ่ายเยอะ อยู่เที่ยวหลายวันในหมู่เกาะสำคัญ ๆ ของจังหวัดตราด เช่น เกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก ส่วนการท่องเที่ยวในเมืองตราดหรือบนฝั่งนั้น จะมีรายได้จากการพักแรมค้างคืนเพียง 1 คืน แล้วก็เดินทางลงเกาะต่างๆ อย่างไรก็ตาม การพักแรมบนฝั่ง 1 คืน ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบโรงแรมที่จะได้รับประโยชน์จากการพักค้างแรม ธุรกิจอื่นๆ ที่ต่อเนื่อง อาทิ ร้านอาหาร ร้านค้า ก็ได้รับประโยชน์ไปด้วย ทำให้สภาพเศรษฐกิจในพื้นที่มีเงินเพิ่มขึ้น มีเงินหมุนเวียนเพิ่มเงิน หลังจากประเทศจีนปิดประเทศไป 3 ปี และการเปิดประเทศของจีนในครั้งนี้ เป็นนิมิตหมายที่ดีของการท่องเที่ยวในประเทศไทยและจังหวัดตราด
 

ด้าน นางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด กล่าวว่า เป็นสัญญาณที่ดี ที่การเปิดประเทศของจีนจะส่งผลให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยนั้นดีขึ้น โดยจังหวัดตราดเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักท่องเที่ยวจีนเช่นกัน เพราะก่อนช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น จังหวัดตราดมีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเข้ามาเที่ยวจำนวน 46,263 คน ซึ่งมีเพียง 2 เกาะเท่านั้นที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางไป คือเกาะช้าง 43,310 คน และเกาะกูด 2,953 คน โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนจะเป็นกลุ่มครอบครัวที่จองตั๋วมาเที่ยวเองเป็นส่วนใหญ่ แบบกรุ๊ปทัวร์ก็มีบ้างแต่ไม่มาก

นางพัศลินทร์ กล่าวต่อไปว่า จากการเก็บสถิติการท่องเที่ยว พบว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาจังหวัดตราดนั้น เป็นนักท่องเที่ยวที่คุณภาพ พูดภาษาอังกฤษได้ดี ใช้จ่ายเยอะ ค้างแรมนาน โดยประมาณการณ์ว่านักท่องเที่ยวชาวจีน 1 คน จะใช้จ่ายคนละ 40,000 บาท ต่อทริป 4 คืน 5 วัน หากคำนวณจากนักท่องเที่ยวในปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวน 46,263 คน จังหวัดตราดมีรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างเดียวถึง 1,850,520,000 บาท ทั้งนี้ ทางสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด ได้เตรียมความพร้อมรับมือนักท่องเที่ยวชาวจีนไว้ทั้งหมด รวมถึงแผนประชาสัมพันธ์ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ
 

ขณะที่ น.ส.รินทร์ลพัส ศักดิ์สมบูรณ์ ผู้บริหารรถตู้โดยสารและรถยนต์มินิบัส สายกรุงเทพ-ตราด เปิดเผยว่า หากนักท่องเที่ยวชาวจีนมาท่องเที่ยวในจังหวัดตราด จะเกิดผลดีต่อธุรกิจขนส่งโดยสารไม่มากนัก เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเดินทางมาเป็นหมู่คณะ และใช้บริการรถโดยสารเฉพาะของกลุ่มธุรกิจชาวจีนเท่านั้น ทำให้กลุ่มรถโดยสารทั้งรถบัส รถมินิบัส หรือรถตู้โดยสาร ไม่ได้อานิสงฆ์จากนักท่องเที่ยวชาวจีนมากนัก ยกเว้นกลุ่มรถตู้ป้ายสีส้มหรือป้าย 30 ที่เป็นรถตู้เช่าจะได้รับ แต่หากเป็นกลุ่มคนจีนที่ไม่ได้มากับทัวร์ จะใช้บริการรถโดยสารเดินทางมา ซึ่งมีสัดส่วนไม่ถึง 20% ทั้งนี้ต้องติดตามประเมินผลประมาณ 1 เดือน จึงจะสามารถประเมินผลได้

ส่วน นางวิภา สุเนตร เจ้าของสวนอาหารชมปู และเจ้าของสวนปูรีสอร์ท อ.เมือง จ.ตราด กล่าวว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเมื่อเดินทางมา จ.ตราด ส่วนใหญ่จะเดินทางลงที่อำเภอเกาะช้างทันที โดยไม่แวะค้างที่อำเภอเมืองตราด แต่หากเป็นกลุ่มที่เดินทางไปที่อำเภอเกาะกูด จะมาแวะค้างที่โรงแรมในเมืองก่อนเดินทางไป ซึ่งมองว่าผู้ประกอบการร้านอาหารในเมือง และโรงแรม รีสอร์ท ในตัวเมืองตราด กำลังหาช่องทางดึงนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนี้มาพักในเมืองตราดก่อน แต่ปัญหาสำคัญคือการที่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนยังมีภาพของการติดเชื้อภายในประเทศ และการเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทยก็ไม่ได้มีการตรวจเข้มก่อนเข้าประเทศ หากเกิดปัญหาขึ้นอาจจะส่งผลกระทบกับรีสอร์ทหรือโรงแรมได้ จึงต้องระวังในเรื่องนี้ด้วย