“สุวัจน์” นำเทนนิสไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 คัมแบ็ค
“สุวัจน์” ชู กีฬา-การท่องเที่ยว พระเอกในการกอบกู้เศรษฐกิจ เป็นนิมิตหมายอันดีต่อวงการกีฬาเทนนิสทั้งในระดับโลกและเอเชีย ที่มีเทนนิสรายการใหญ่มาจัดขึ้นที่ประเทศไทยอีกครั้ง
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันเทนนิสหญิง ดับเบิลยูทีเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ทัวร์นาเมนท์ ระดับ ดับเบิลยูทีเอ 250 รายการ Thailand Open 2023 presented by E@ (ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ) ณ เมต้า สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2566
โดยมี นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย, นายวุฒิเลิศ เจียรนิลกุลชัย กรรมการบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จํากัด (มหาชน) นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด และ น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัท พราว ในนาม ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ตคลับ รวมทั้งแขกผู้มีเกียรติ ให้เกียรติร่วมงานด้วย
นายสุวัจน์ กล่าวว่านับเป็นนิมิตหมายอันดีต่อวงการกีฬาเทนนิสทั้งในระดับโลกและเอเชีย ที่มีเทนนิสรายการใหญ่มาจัดขึ้นที่ประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากต้องหยุดไปเมื่อปี 2020-2021 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยสมาคมนักเทนนิสอาชีพหญิง หรือดับเบิลยูทีเอ ได้ไว้วางใจให้ กลุ่มบริษัท พราว และ ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันต่อในครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ในชื่อว่า "ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ" ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,375,000 บาท ณ ทรู อารีน่า หัวหิน สปอร์ต คลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 30 มกราคม - 5 กุมภาพันธ์ 2566
"การจัดเทนนิส ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ ถือเป็นการจัดรายการระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นการตอกย้ำให้เมืองหัวหินเป็นเมืองที่มีศักยภาพในการรองรับกีฬาระดับโลกได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจของประเทศ และส่งเสริมภาพลักษณ์ของเมืองหัวหินสู่สายตาชาวโลก โดยจะมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันให้รับชมไปทั่วโลกผ่านฟ็อกซ์ สปอร์ต สำหรับในประเทศไทยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดระดับคมชัดแบบเอชดี ได้ที่ทรูวิชั่น"
นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า จากรายชื่อนักกีฬาที่สมัครเข้ามาแข่งขันในรอบเมนดรอว์ ปรากฏว่า มีนักเทนนิสแถวหน้าของโลก ระดับท็อป 50-100 ของโลก ให้ความสนใจจำนวนมาก อาทิ คู่ชิงชนะเลิศ ศึกไทยแลนด์ โอเพ่น ปี 2019 ระหว่างแชมป์คือ ดายาน่า ยาสเตร็มสก้า จากยูเครน อดีตมือ 21 ของโลกและปัจจุบันเป็นมือ 99 ของโลก กับรองแชมป์ในครั้งนั้นคือ ไอล่า ทอมยาโนวิช จากออสเตรเลีย มือ 35 ของโลก
นอกจากนี้ยังมี แม็กดา ลีเน็ตต์ จากโปแลนด์ มือ 46 ของโลก ที่จะเดินทางมาป้องกันแชมป์ ในฐานะแชมป์ศึกไทยแลนด์ โอเพ่น ปี 2020 รวมทั้ง ทาเทียน่า มาเรีย จากเยอรมนี มือ 71 โลก ที่เคยติดท็อป 50 ของโลกและเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแกรนด์สแลม "วิมเบิลดัน" ปี 2022 มาแล้ว และนักหวดความหวังของชาวเอเชียจากจีนอีก 2 คนคือ หวัง ซิหยู มือ 49 โลก กับ จู หลิน มือ 85 ของโลก
ในส่วนนักเทนนิสไทยนั้น จะได้รับโอกาสให้เข้าร่วมการแข่งขันกับนักเทนนิสระดับโลกด้วย ในฐานะนักหวดไวลด์การ์ดหรือสิทธิพิเศษ ได้แก่ "ลักส์" ลักษิกา คำขำ นักเทนนิสวัย 29 ปี มือ 1 ของไทย และมือ 321 ของโลก กับ "พราว" ชมภู่ทิพย์ จันดาเขต นักเทนนิสวัย 27 ปี ที่เคยขึ้นไปอยู่อันดับที่ 540 ของโลก รวมไปถึง “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช อายุ 30 ปี อันดับที่ 323 ของโลก, “รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี อันดับที่ 521 ของโลก และ “ออมสิน” อัญชิสา ฉันทะ อันดับที่ 679 ของโลก
"การแข่งขันในปีนี้ ยังคงเสน่ห์ไว้เช่นเดิมคือ การจัดกิจกรรมต่างๆ ให้นักกีฬาได้มีส่วนร่วมได้สัมผัสความสวยงามของเมืองหัวหิน ได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย อาทิ เรียนมวยไทย, ทำอาหารไทย, การเพ้นท์รองเท้า, เพ้นท์ผ้าโขมพัสตร์ รวมทั้งจะพาชมรถคลาสสิคที่หาชมได้ยาก ผลงานภาพศิลปะจากศิลปินระดับโลกและศิลปินท้องถิ่น ทั้งหมดนี้จะจัดขึ้นที่บลูพอร์ต หัวหิน และสัมผัสความสวยงามของทะเลหัวหินที่งานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬาที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท หลังจากนั้น ก็จะส่งเสริมเรื่อง Wellness ให้กับเมืองหัวหิน เพื่อสนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมของนักกีฬาดังๆ ระดับโลก” นายสุวัจน์ กล่าว
และย้ำว่า “การจัดการแข่งขันครั้งนี้ นอกจากเรื่องกีฬาแล้ว เรื่องเศรษฐกิจก็เป็นเรื่องสําคัญ เพราะที่ผ่านมาเรามีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ อันเนื่องจากผลกระทบจากโควิด จากสงคราม สงครามการค้า ภาวะเงินเฟ้อ ภาวะหนี้สินต่างๆ ทั่วโลก ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศถดถอย แสงสว่างของระบบเศรษฐกิจไทย ผมว่าตอนนี้ คือ การท่องเที่ยว ต้องเป็นพระเอก และเป็นสิ่งที่จะฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว เพราะนักท่องเที่ยว อยากไป อยากมากินของอร่อย ขอให้ปลอดภัย มีที่เที่ยว มี soft power ให้ชื่นชม พอจีนเปิดประเทศ วันที่ 8 มกราคม วันรุ่งขึ้นเค้าก็จองตั๋วเครื่องบินมาเที่ยวเมืองไทยเลย แสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยว ฉับไวทันที ขออย่างเดียวท่านมีความรู้สึกว่า ประเทศนี้น่ามา ประเทศนี้ปลอดภัย ประเทศนี้ของกินอร่อย ประเทศนี้พร้อมต้อนรับ ประเทศมีบรรยากาศ มีความสวยงาม มีธรรมชาติ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ประเทศไทยมีครบถ้วน”
นายสุวัจน์ กล่าวว่าวันนี้ การท่องเที่ยวเป็นพระเอก ที่พูดอย่างนี้คือ ต้องการจะบอกว่า Thailand Open มาจัดการแข่งขันที่เมืองท่องเที่ยวของประเทศไทยที่สําคัญที่ทั่วโลกรู้จัก มีอยู่ 5-6 เมือง คือ กรุงเทพ-ภูเก็ต-สมุย-พัทยา-เชียงใหม่-หัวหิน และยังมีถ่ายทอดโทรทัศน์ไปทั่วโลก มีนักกีฬาดังๆ ที่เป็นตัวแทนประเทศที่เป็นเป้าหมายทางด้านการท่องเที่ยวอย่างจีน มาเข้าร่วมการแข่งขัน รวมทั้งนักเทนนิสจากยุโรป จากอเมริกา เหมือนเป็นการประชาสัมพันธ์ ให้เห็นความสวยงามของเมืองท่องเที่ยวของประเทศไทย ผ่านกิจกรรมกีฬา เพราะมีการถ่ายทอดกันทั่วโลก ฉะนั้น อันนี้ จะช่วยเรื่องเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างดียิ่ง
โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้เร็ว พอเราเริ่มเปิดประเทศที่แรกคิดว่าเปิดประเทศกลางปี 2022 จะมีนักท่องเที่ยวมา 6-7 ล้าน ปรากฏว่าสิ้นปีมาถึง 11 ล้านคนเกินเป้าหมาย และปีนี้ 2023 อาจจะได้สัก 25 ล้านคน จากที่เคยมี 40 ล้านคน ดังนั้น ถ้าได้ตามเป้านี้ ในปี 2024 ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม ที่สำคัญ การท่องเที่ยวเป็นรายได้ที่กระจายไปทุกหย่อมหญ้า ทุกหมู่บ้าน ทุกตารางนิ้ว ทุกตําบล และกระจายไปทุกอาชีพ
ฉะนั้น การฟื้นตัว ( Recover) การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางการท่องเที่ยวนี้จะเร็วที่สุด แล้วเป็นจุดแข็งของเรา ดังนั้น การที่มีกิจกรรมกีฬา กิจกรรม World Event ต่างๆไม่จําเป็นต้องเป็นกีฬา เป็นศิลปะการแสดงเป็นวัฒนธรรมอะไรต่างๆ เหล่านี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทางโลกอุตสาหกรรมการขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี