รอง ผบช.น. เผยผลตรวจเลือด "เสี่ยเบนท์ลีย์" พบสารเสพติด เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

จากกรณีอุบัติเหตุ "เสี่ยเบนท์ลีย์" หรือ นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ ซิ่งรถหรูเบนท์ลีย์พุ่งชนมิตซูบิชิ ปาเจโร่ จนเกิดรถหมุนพลิกคว่ำบาดเจ็บทั้งคัน บนทางด่วนเขตพระโขนง กรุงเทพฯ ก่อนถูกรถดับเพลิงของอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยมัสยิดฮารูณชนซ้ำ โดยเหตุเกิดเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา

 

 

และเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 โรงพยาบาลตำรวจได้เผยผลการตรวจเลือดของนายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ หรือ "เสี่ยเบนท์ลีย์" โดยผลการตรวจเลือดดังกล่าวพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ในที่สุดก็ถูกแจ้งข้อหา "เมาแล้วขับ" เหตุไม่ยอมเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์

 

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (13 มกราคม 2566) มีรายงานว่าผลการตรวจสอบเลือดของ "เสี่ยเบนท์ลีย์" มีการตรวจพบสารบางชนิดที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

 

 

ซึ่งจากการสอบถาม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้กล่าวว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้รับผลการตรวจเลือดของผู้ขับขี่รถยนต์หรูเบนท์ลีย์ โดยพบว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย ซึ่งหนึ่งในสารที่พบในขณะนี้ที่สามารถยืนยันได้คือ เมทแอมเฟตามีน และยังมีสารเสพติดอื่นๆซึ่งขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลตำรวจกำลังคัดแยกตัวสารเพื่อระบุชนิดของสารเสพติดดังกล่าว

 

รอง ผบช.น. กล่าวต่ออีกว่า ส่วนการดำเนินการกับผู้ขับขี่รถยนต์หรูเบนท์ลีย์ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเรียกตัวผู้ขับขี่มาทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะสามารถดำเนินการเรียกมาแจ้งข้อหาได้ภายในวันนี้หรือไม่ โดยข้อหาที่จะแจ้งเพิ่มเติมคือเป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะเสพยาเสพติด