จ่อขายสลากดิจิทัลเพิ่ม 50 ล้านใบใน 3 ปี เดินหน้าปิดแพลตฟอร์มขายสลากฯ เกินราคา

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวหลังประชุมกรรมการสลากฯ เห็นชอบแนวทางการเพิ่มสลากดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ในปี 2566 เป็น 30 ล้านใบ และในระยะ 3 ปี จะทยอยเพิ่มขึ้น โดยปี 2567 อยู่ที่ 40 ล้านใบ และปี 2568 อยู่ที่ 50 ล้านใบ 

โดยการเพิ่มสลากดังกล่าว จะทำให้สลากในระบบทั้งหมดเป็นแบบใบ 50 ล้านใบ และดิจิทัล 50 ล้านใบ โดยคาดว่า จะมีคนซื้อ เพิ่มขึ้นจาก 1.8 ล้านคน เป็น 2-3 ล้านคน ซึ่งจากนี้จะต้องสร้างความรับรู้ ให้คนซื้อ และ คนขายว่ามีข้อดีอย่างไรที่สลากมาอยู่ในระบบเป๋าตัง
 

นายลวรณ กล่าวว่า วันนี้ สลาก 80 บาทมีอยู่จริง และสะท้อนข้อเท็จจริงว่า จำนวนสายร้องเรียนสลากเกินราคาลดลงกว่า 80% ซึ่งสลากสร้างอาชีพให้ผู้ค้า ขอให้ส่งผ่านให้ผู้ซื้อในราคาที่เป็นธรรม และมีความเสี่ยงมากๆ ว่า สลากของท่านจะไปอยู่ที่ใครสามารถตรวจสอบได้ว่า  ขายเอง หรือ ขายส่ง ขอให้รักษาสิทธิ์ไว้ ถ้าตรวจพบว่า ไม่ได้ขายเองจะตัดสิทธิ์ทันที

สำหรับผู้ที่ขายสลากฯเกินราคาถือว่าทำผิดอาญาแผ่นดิน ทางกองสลากฯจะเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง แต่ไม่มีเจตนาที่จะจัดการผู้ค้าสลากตามแผง เพราะเข้าใจว่า การขายสลากสร้างอาชีพให้กับหลายๆคน

นายลวรณ บอกด้วยว่า กติกาใหม่ในวันที่ 1 เมษายนนี้ จะมีลดจำนวนโควต้าสลากฯ ลงเหลือคนละ 3-4 เล่ม เพื่อให้เพียงพอกับผู้ซื้อและผู้จองทุกคน แต่ถ้าเห็นว่า 3 เล่มน้อยเกินไป ก็ต้องสมัครในระบบสลากดิจิทัลถึงจะขายได้ 5 เล่ม  

ในส่วนของการดำเนินการแก้ปัญหาสลากเกินราคา และแพลตฟอร์มออนไลน์ นั้น สำนักงานสลากฯ จะมีการดำเนินการอย่างจริงจังในทุกฐานความผิดจากทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางกรอบแนวทางการบูรณาการการทำงานร่วมกัน 

นายลวรณ กล่าวด้วยว่า จากนี้ไปจะเห็นการดำเนินคดีออกมาอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ขายสลากเกินราคาจะโดนค่าปรับ และมีการตรวจค้นเก็บหลักฐานในแต่ละหน่วยงานไปดู  ส่วนเส้นทางทางการเงินส่วนบุคคล กองสลากฯ จะไม่ได้เข้าไปก้าวล่วง

สำหรับในเรื่องลิขสิทธิ์ สำนักงานสลากฯ เห็นการกระทำความผิดใน 2-3 เรื่อง เตรียมยื่นฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญญา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ารายใด