เปิดเกณฑ์ “รถตำรวจนำขบวน” บุคคลใดใช้ได้บ้าง? ขั้นตอนขออนุญาต เป็นอย่างไร?
เปิดเกณฑ์ขอใช้รถตำรวจนำขบวนตามเกณฑ์ตำรวจทางหลวง ต้องมีการขออนุญาตก่อน 7 วัน ส่วนมติ ครม.หนังสือสำนักนายกฯ มีการกำหนดชัดเจนว่าบุคคลใดสามารถขอใช้ได้บ้าง และต้องมีรถนำขบวนในการปฏิบัติหน้าที่
จากกรณีโลกโซเชียลเผยแพร่ภาพเคลื่อนไหวตำรวจไทยขับรถอำนวยความสะดวกนำ นักท่องเที่ยวจีน จากสนามบินสุวรรณภูมิไปส่งยังที่พักในโรงแรม โดยนักท่องเที่ยวมีการถ่ายคลิปวีดีโอแล้วนำไปเผยแพร่จนเป็นกระแสความสนใจในขณะนี้และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้วนั้น
“กรุงเทพธุรกิจ”ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแนวปฏิบัติ และข้อกำหนดทางราชการในการขอใช้รถตำรวจในการนำรถ หรือ ขบวนรถ โดยเว็บไซต์ของกองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้เผยแพร่หลักเกณฑ์เรื่องการขอรถนำขบวนดังนี้
การนำขบวนโดยการร้องขอเป็นครั้ง ๆ ไป เป็นกรณีตามความจำเป็นแห่งโอกาสสำหรับบุคคคล โดยจะต้องร้องขอและได้รับอนุญาคตามระเบียบ
ขบวนที่มีความจำเป็นต้องใช้ตำรวจนำขบวนเพื่อความปลอดภัยของขบวนหรือความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนตามความจำเป็นแก่กรณี เช่น รถนักเรียน
ขบวนรถซึ่งเดินทางไปประกอบศาสนกิจหรือพิธีการที่มีรถหลายคัน หรือกรณีมีความ จำเป็นเร่งด่วนของบุคคลผู้มีหน้าที่ต่าง ๆ ในทางราชการเพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาการขอรถนำขบวน ได้แก่
1.เส้นทางที่จะไปเป็นเส้นทางอันตรายเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
2.มีจำนวนรถในขบวน รถโดยสารไม่ประจำทาง 8 คัน หรือ รถยนต์เก๋ง 10 คัน หรือ รวมกัน 10 คันขึ้นไป
3. ต้องมีรถวิทยุตรวจการณ์เพียงพอ ไม่กระทบภารกิจหลักหรือการถวายความปลอดภัยฯ ,คำนึงถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในภารกิจประจำด้วย
4.เอกสารและเหตุผลประกอบการขอรถนำขบวน
หนังสือจากหน่วยงาน เรียนผู้บังคับการตำรวจทางหลวงแสดงเหตุผลความจำเป็น จำนวนรถในขบวน วันเวลาและ เส้นทาง ต้นทาง-ที่หมายผู้ประสานงานพร้อมหมายเลขโทรศัพท์
ติดต่อโดยส่งเอกสารทางไปรษณีย์ หรือยื่นด้วยตนเอง ได้ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง
2/486 ถ.ศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
หรือส่งโทรสารที่หมายเลข 023546021 0 (งานนำขบวน) โดยต้องร้องขอล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน
นอกจากนี้ในหนังสือของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร.1205/ว188 ตุลาคม 2544
หลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวนของบุคคลสำคัญหรือนักการเมือง หรือการใช้รับรองแขกต่างประเทศในการเยือนประเทศไทย
สาระสำคัญคือตามที่สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกได้เสนอเรื่อง หลักเกณฑ์การใช้รถตำรวจนำขบวนของบุคคลสำคัญหรือนักการเมือง หรือการใช้รถนำขบวนรับรองแขกต่างประเทศในการเยือนประเทศไทย มาเพื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อให้ชัดเจน สะดวกแก่การปฏิบัติของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีข้อความดังต่อไปนี้
1.การใช้รถตำรวจนำขบวนตามหลักเกณห์นี้หมายถึง การขออนุญาตนำรถยนต์และ รถจักรยานยนต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาใช้เพื่อนำขบวนยานพาหนะของบุคคลผู้มีตำแหน่งหน้าที่
สำคัญ โดยมุ่งหมายที่จะรักษาความปลอดภัยของผู้เดินทางหรือของผู้ใช้รถใช้ถนน อารักขาบุคคลสำคัญและอำนวยความสะดวกเป็นสำคัญ
ในการใช้รถตำรวจนำขบวนเป็นครั้ง ๆ ไปนั้น ให้บุคคลผู้มีสิทธิหรือหน่วยงานของ บุคคลนั้น แจ้งขอล่วงหน้าต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดรถตำรวจนำขบวน โดยให้แจ้งขอตามความจำเป็น ไม่ใช้ในภารกิจที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ เมื่อสิ้นสุดภารกิจแล้วให้ส่งคืน และให้เจ้าหน้าที่ประจำรถตำรวจนำขบวนรายงานการสิ้นสุดภารกิจต่อผู้บังคับบัญชาส่วนการใช้รถตำรวจนำขบวนเป็นประจำ ให้บุคคลผู้มีสิทธิหรือหน่วยงานของบุคคลนั้น แจ้งขอรถตำรวจนำขบวนได้คราวละหนึ่งชุด มิให้มีชุดสำรองอยู่ ประจำ เมื่อพันจากตำแห่น่งแล้วให้ส่งคืนทันที ทั้งนี้ ให้เจ้าหน้าที่ประจำรถตำรวจนำขบวนรายงาน
การสิ้นสุดภารกิจต่อผู้บังคับบัญชาด้วยเช่นกัน
นอกจากขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ขบนเสด็จพระดำเนิน และขบวนเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งมีรถตำรวจนำขบวนตามปกติประเพณีแล้ว บุคคลสำคัญอื่น ๆ สามารถใช้รถตำรวจนำขบวนได้เป็นประจำหรือเป็นครั้ง ไปตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ใช้รถตำรวจนำขบวนเป็นประจำได้สำหรับบุคคล
- ประธานองคมนตรี รัฐบุรุษ
- นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา (ประธานสภาผู้แทนราษฎร)
- รองประธานรัฐสภา (ประธานวุฒิสภา) ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธาน
- สมเด็จพระสังฆราช
- รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้นำฝ้ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
- ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และประธานกรรมการที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและมีอำนาจหน้าที่ติดตามการปฏิบัติราชการในเขตพื้นที่ต่าง ๆ
- ผู้เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นอกเขตกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บังคับการตำรวจจราจร หรือผู้ได้รับมอบหมาย จากผู้บังคับการตำรวจจราจรมีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้ใช้รถตำรวจนำขบวนเป็นครั้งไปตามความจำเป็น
แห่งโอกาสสำหรับบุคคล ดังนี้
- ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ ประมุขของรัฐต่างประเทศ ผู้นำรัฐบาลต่างประเทศ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ
- องคมนตรี
- ผู้นำทางศาสนาอื่น สมเด็จพระราชาคณะ
สำหรับขบวน ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้รถตำรวจนำขบวนเพื่อความปลอดภัย ของขบวน หรือความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนตามความจำเป็นแก่กรณี เช่น รถนักเรียน ขบวนรถ ซึ่งเดินทางไปประกอบศาสนกิจหรือพิธีการ ขบวนที่มีรถหลายคัน เป็นต้น หรือเป็นกรณีมีความจำเป็น เร่งด่วนของบุคคลผู้มีตำแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ ในทางราชการเพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจสำคัญของ ทางราชการ