"ไฟไหม้รถตู้" 11 ศพล่าสุด ผู้รอดชีวิตนอนผวาภาพติดตา เตรียมบวชให้ศพละ 1 เดือน

ความคืบหน้าเหตุการณ์ "ไฟไหม้รถตู้" คร่าชีวิตผู้โดยสาร 11 ศพ ล่าสุด พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก.สภ.สีคิ้ว เปิดเผยว่าขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ได้ ว่าเกิดจากคนขับหรือเกิดจากมีรถของบุคคลที่สามที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 มกราคม 2566 พล.ต.ต.บุญชัย ฤาชัยสา ผบก.ศพฐ.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ พฐ.ภาค 3 ลงพื้นที่ตรวจสอบซากรถตู้อีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้จนทำให้มีผู้เสียชีวิตภายในรถตู้ถึง 11 ราย ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่า บริเวณถังน้ำมันมีรอยรั่วซึ่งเกิดจากรถตู้ได้พุ่งชนกับการ์ดเรลแล้วลอยขึ้นจนทำให้ถังน้ำมันไปกระแทกกับเสาของการ์ดเรลจนทำให้เกิดรอยรั่ว ทำให้น้ำมันไหลออกมาติดกับประกายไฟจนเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว

ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เร่งหาหลักฐานกล้องวงจรปิดและกล้องหน้ารถของประชาชนที่ผ่านในช่วงเวลาเกิดเหตุพร้อมกับมีการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ในคืนวันเกิดเหตุด้วย เพื่อสืบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่งจากการสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยังไม่มีใครทราบถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงเร่งหาหลักฐานจากกล้องหน้ารถเพิ่มเติมเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 11 ราย และเป็นที่สนใจของประชาชนจึงจำเป็นต้องสืบสวนหาหลักฐานเพื่อความรัดกุมและเพื่อความเป็นธรรมของญาติคนขับและญาติของผู้เสียชีวิต

ดังนั้น ขอให้ประชาชนที่ขับรถผ่านในช่วงเวลาเกิดเหตุและมีกล้องหน้าหรือหลังรถที่บันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ อยากให้นำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีคิ้ว เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- อุบัติเหตุ "รถตู้ไฟไหม้" คร่าชีวิตผู้โดยสาร รัฐต้องเข้มมาตรการ

- อัปเดต รถตู้ 11 ศพ ญาติผู้เสียชีวิต แห่แสดงเอกสารรับร่างไปบำเพ็ญกุศล

- สลด รถตู้เสียหลักตกร่องกลางถนนมิตรภาพ เพลิงไหม้วอดทั้งคัน เสียชีวิต 11 ราย
 

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนางศิริจันทร์ แม่ของนายธนชิต ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุการณ์ "ไฟไหม้รถตู้" ทราบว่า นายธนชิตได้เดินทางกลับไปที่ จ.อุบลราชธานี และเตรียมตัวบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย

ซึ่งแม่ของผู้รอดชีวิต เผยว่า หลังจากเกิดเหตุลูกชายของตนได้กลิ่นไหม้อยู่ตลอดและมีอาการนอนไม่ค่อยหลับในช่วงแรก ซึ่งตัวน้องเองก็รู้สึกสลดใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพเหตุการณ์วันนั้นยังติดตาและติดอยู่ในใจตลอด ทั้งภาพขณะเกิดเหตุการณ์ที่ไฟกำลังลุกไหม้ เสียงคนร้องในรถด้วยความเจ็บปวด แต่น้องเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ จึงอยากจะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย

โดยพิธีอุปสมบทจะจัดขึ้นหลังจากที่ญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมดประกอบพิธีทางศาสนาคือครบทั้ง 11 ราย และทางกฎหมายดำเนินคดีจนเสร็จสิ้น เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิตและเจ้าของรถตู้จะร่วมเป็นเจ้าภาพในพิธีด้วย

นอกจากนี้ ทางครอบครัวและน้องมีความตั้งใจจะบวชให้ผู้เสียชีวิตรายละ 1 เดือน รวมถึงบวชให้ตัวน้องเองรวมเป็นทั้งหมด 12 เดือนหรือ 1 ปีพอดี โดยวัดที่จะประกอบพิธีอุปสมบท คุณพ่ออยากจะให้บวชที่วัดในพื้นที่ภูมิลำเนาคือ วัดหนองเมือง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี