สมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ยืนยันคัดนักกีฬายุติธรรม-โปร่งใส
สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกประกาศยืนยัน การคัดเลือกนักกีฬาเข้าร่วมโครงการ LTAT Academy ซึ่งเป็นไปด้วยความยุติธรรมและโปร่งใส
จากกรณีที่ "บอม" ธนิน มนูญศิลป์ นักแสดงชื่อดัง ได้ออกมาทวีตข้อความระบุถึง เรื่องเกี่ยวกับสมาคมเทนนิส ในประเด็นร้อนกรณีนักเทนนิสเยาวชน วัย 16 ปี ขับรถยนต์ฝ่าไฟแดงชงชนคนตาย ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อ 30 ก.ย.ที่ปีที่ผ่านมา โดยระบุว่า
“เห็นคนพูดถึงสมาคมเทนนิสกัน ผมเล่นและแข่งเทนนิสมาตั้งแต่ 10 ขวบ….คันปากจังเลย อยากพูดความจริง บอกเลยว่าเรื่องแซ่บกว่าที่คุณคิดและโยงไปถึงทำไมเทนนิสไทยย่ำอยู่กับที่ #สมาคมเทนนิส
ถ้าคนที่มีฝีมือดีที่สุดได้โอกาสไปแข่งที่ต่างประเทศก่อนเด็กเส้น วงการเทนนิสไทยไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน(เป็นมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะเป็นด้วย) มีหลายคนเลิกเล่นเพราะทางสมาคมไม่ให้ทุนไปแข่งที่ต่างประเทศทั้งๆที่ชนะการแข่งขัน
แต่กลับไปให้เด็กที่ขึ้นตรงกับทางสมาคม #สมาคมเทนนิส เบาๆไปก่อนนะ"
ล่าสุดวันนี้ (30 ม.ค.66) สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกประกาศเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ความว่า
1. ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน สมาคมฯ มีนโยบายในการคัดเลือกนักเทนนิส เข้าร่วมโครงการ LTAT Academy โดยพิจารณาจากผลการแข่งขันคัดเลือกเป็นนักเทนนิสทีมชาติชุดใหญ่ และเยาวชนทีมชาติ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี 14 ปี และ 16 ปี ซึ่งจะทำการแข่งขันคัดเลือกในทุก ๆ ปี อย่างยุติธรรมและโปร่งใส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
2. นักเทนนิสที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ โดยนักเทนนิสทุกคนที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับการสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน, ค่าวีซ่า และค่าสมัคร สำหรับการเดินทาง ไปแข่งขันต่างประเทศเก็บสะสมอันดับโลกที่มีความเหมาะสมกับตัวนักเทนนิส ในรายการของ สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ITF), สมาคมเทนนิสอาชีพชาย (ATP) สมาคมเทนนิสอาชีพหญิง (WTA) โดยเท่าเทียมกัน (นักกีฬา ที่ขออนุมัติออกแข่งขัน จะได้รับอนุมัติให้ออกแข่งขันในทุกรายการที่ขออนุมัติมา)
3. นักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกเป็นทีมชาติชุดใหญ่และเยาวชนทีมชาติในแต่ละปี จะเข้าร่วมโครงการ LTAT Academy แทบทั้งหมด ยกเว้นมีนักเทนนิสประมาณ 5-6 ราย ที่ติดสัญญากับต้นสังกัด หรือไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ด้วยเหตุผลอื่น ๆ
4. การเข้าร่วมโครงการ LTAT Academy จะเป็นในรูปแบบสัญญาปีต่อปี การไม่ต่อสัญญาโครงการเคยเกิดขึ้นเพียงกรณีเดียวคือ ในกรณีที่นักเทนนิสได้สิทธิ์เข้าร่วมในการแข่งขันคัดทีมชาติชุดใหญ่แล้ว แต่ไม่เข้าร่วมการแข่งขัน เนื่องจากสมาคมมีนโยบายที่ต้องการให้นักเทนนิสทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญในการแข่งขันคัดเลือกเป็นนักเทนนิสทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งเป็นรายการที่มีความสำคัญ และแสดงออกถึงความรักชาติ รวมทั้งต้องการรับใช้ชาติ (ในแต่ละปีการคัดทีมชาติชุดใหญ่จะมีเพียงครั้งเดียว ใช้เวลาประมาณ 4 วัน)