รวบอดีตพนักงานแบงก์โกงเงินลูกค้า ความเสียหายกว่า 36 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบอดีตพนักงานแบงก์โกงเงินลูกค้า ฝากเข้าบัญชีแฟน ความเสียหายกว่า 36 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.พัฒนา ฉายาวัฒน์, พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ., พ.ต.ท.ธนิต กรปรีชา, พ.ต.ท.กริช วรทัต, พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี รอง ผกก.5 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศษฐกิจ
ร่วมกันจับกุมตัว
1.น.ส.ลตา (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 276/2566 และ 278/2566 ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างและพนักงานของสถาบันการเงิน กระทำการหรือไม่กระทำการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นการเสียหายแก่สถาบันการเงิน”
2.นายภรัณยู (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 277/2566, 279/2566 ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร”
สถานที่จับกุม คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง บริเวณ ถ.ดินแดง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงประมาณเดือน พฤศจิกายน 2564 น.ส.นิอรฯ ได้รับมอบอำนาจจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรณี บจก.ศรีชลธร และ บจก.พีเอ็นอาร์เดค ซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคาร นำเงินมาฝากเข้าบัญชีเงินฝากของธนาคาร โดย บจก.ศรีชลธร ได้สั่งจ่ายเช็คจำนวน 3 ฉบับ มูลค่ารวม 20,477,414.32 บาท และบจก.พีเอ็นอาร์เดค ได้สั่งจ่ายเช็คจำนวน 2 ฉบับ มูลค่า 15,725,550.86 บาท เพื่อชำระหนี้ของบริษัทฯ ต่อมาทางธนาคารได้ติดตามทวงถามและแจ้งเตือนมายังบริษัท เป็นเหตุให้ทั้งสองบริษัทโต้แย้งว่าได้ชำระหนี้ไปแล้ว ทางธนาคารจึงได้ตรวจสอบและเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
กก.5 บก.ปอศ.
ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบตัวผู้กระทำความผิดในคดีนี้ คือ น.ส.ลตาฯ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นพนักงานของธนาคารทำหน้าที่ดูแลและประสานงานกับลูกค้าทั้งสองบริษัท ได้ทำการทุจริตโดยนำเช็คของ บจก.ศรีชลธร และ บจก.พีเอ็นอาร์เดค ที่ระบุสั่งจ่ายให้กับธนาคารและผู้ถือเพื่อชำระหนี้ของบริษัท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 36,202,965.18 บาท แต่ น.ส.ลตาฯ (ผู้ต้องหา) ได้นำเช็คดังกล่าวนำฝากเข้าบัญชีเงินฝากของ นายภรัณยูฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นแฟนของตนเอง ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ น.ส.ลตาฯ และนายภรัณยูฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จนกระทั่งวันที่ 8 ก.พ.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมตัว น.ส.ลตาฯและนายภรัณยูฯ ได้ที่บริเวณคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ถ.ดินแดง แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ และนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. กล่าวว่าในคดีนี้ผู้ก่อเหตุมีตำแหน่งเป็นพนักงานธนาคาร ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจเรื่องระบบการเงินการธนาคารจึงอาศัยช่องว่างของข้อความที่ระบุบนเช็ค แอบโอนเงินที่ต้องสั่งจ่ายให้ธนาคารไปเป็นของตนเอง จากการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ตำรวจสอบสวนกลางจึงขอฝากเตือนภัย ถึงพี่น้องประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะธุรกรรมที่มีการสั่งจ่ายเป็นเช็ค ให้ตรวจสอบข้อความที่ระบุในเช็คให้รอบคอบหรือให้ขีดฆ่าคำว่า “ผู้ถือ”ออกหรือระบุข้อความให้ชัดเจนว่าสั่งจ่ายให้กับผู้ใดโดยอาจมีการสลักหลังเช็คห้ามโอนต่อ และการทำธุรกรรมทุกครั้งควรเก็บหลักฐานไว้ด้วย กรณีมีเบาะแสเกี่ยวกับบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยสามารถแจ้งเบาะแสมาได้โดยตรงที่เฟซบุ๊กตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป