กำเนิดลอตเตอรี่ | เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว
ในอดีตนั้น คำว่าลอต (lot) ซึ่งเป็นคำต้นของลอตเตอรี่หมายถึงวัตถุขนาดเล็ก เช่น ก้อนหิน กระดูกสัตว์ เป็นต้น ซึ่งมักใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับเสี่ยงทาย
เพราะเชื่อกันว่า เมื่อผู้เสี่ยงทายไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ที่ออกมาได้ ผลที่ออกมาต้องเกิดจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอำนาจ ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ การเสี่ยงทายโดยใช้ลอตจึงเปรียบได้กับการขอคำชี้แนะจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้เสี่ยงทายนับถือ
มีหลักฐานมากมายในแทบทุกมุมโลกที่แสดงให้เห็นถึงการเล่นพนันที่คล้ายกับลอตเตอรี่สมัยปัจจุบัน ในพระคัมภีร์เก่ายังมีการพูดถึงการที่พระเจ้าแสดงความประสงค์ให้โมเสสใช้การเสี่ยงทาย
เพื่อแบ่งที่ดินให้กับชาวอิสราเอลว่าแต่ละครอบครัวจะได้ที่ดินที่ไหน มากน้อยเพียงใด แม้แต่กษัตริย์องค์แรกของชาวอิสราเอลก็ถูกคัดเลือกโดยการใช้ลอตเสี่ยงทายเช่นกัน
อาณาจักรโรมันก็เคยใช้ประโยชน์จากการเสี่ยงทายแบบนี้ เพื่อสร้างความบันเทิงในงานเลี้ยงสังสรรค์ กษัตริย์โรมันหลายพระองค์ใช้ลอตในการแบ่งที่ดินระหว่างชนชั้นสูง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาว่าพระองค์ทรงตัดสินใจด้วยความลำเอียง เลือกที่รักมักที่ชัง
เอเชียเองก็ไม่ใช่ย่อย กำแพงเมืองจีนสิ่งมหัศจรรย์ระดับโลกที่จิ๋นซีฮ่องเต้สร้างขึ้นนั้น ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างส่วนหนึ่งก็มาจากการขายลอตเตอรี่ให้กับประชาชน
ลอตเตอรี่เวอร์ชั่นแดนมังกรได้กลายเป็นต้นแบบของการพนันที่เรียกว่า คีโน ซึ่งมีวิธีในการออกเลขคล้ายกับการออกสลากกินแบ่งของบ้านเราในสมัยนี้ และมีให้เล่นกันตามคาสิโนใหญ่ ๆ
ประเทศแถบยุโรปก็ใช้แนวคิดการนี้เพื่อระดมเอาเงินมาใช้ในการลงทุนหรือบริการประเทศ ในปี ค.ศ. 1530 กษัตริย์ของฝรั่งเศสได้ออกลอตเตอรี่ เพื่อนำเงินที่ได้มาแก้ปัญหาเงินคงคลังที่กำลังร่อยหรอลงไปทุกวัน
หลังจากนั้นไม่นาน นักธุรกิจหัวใสเมืองน้ำหอมก็ออกลอตเตอรี่มาขายกันเป็นการใหญ่ ก่อนจะถูกประกาศให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายในปี ค.ศ. 1776 แม้ว่าหลังจากนั้นจะมีการออกลอตเตอรี่บ้าง แต่ก็ทำได้เฉพาะการระดมทุนเพื่อช่วยเหลือสังคมและทำนุบำรุงศิลปะเท่านั้น
อิตาลี ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของฝรั่งเศสมีการออกลอตเตอรี่ครั้งแรกที่เมืองฟลอเรนซ์ในปี ค.ศ. 1539 มีรางวัลตอบแทนเป็นเงินสดล่อใจจำนวนค่อนข้างสูง ทำให้โรคคลั่งลอตเตอรี่ก็ได้แพร่ระบาดไปทุกหย่อมหญ้า
สามร้อยกว่าปีต่อมา รัฐบาลอิตาลีเองก็ตัดสินใจกระโดดเข้าไปร่วมสังฆกรรมทำการมอมเมาประชาชน โดยการออกลอตเตอรี่ของรัฐชื่อว่า “ลอตโต” และเจ้าลอตโตนี้ก็กลายเป็นนางกวักดึงเงินเข้าคลังได้อย่างต่อเนื่อง
ในยุคของพระราชินีอาลิธซาเบธที่ 1 ของอังกฤษ รัฐบาลออกลอตเตอรี่จำนวน 40,000 ใบ เพื่อหารายได้มาสร้างท่าเรือและสาธารณูปโภคที่จำเป็น ลอตเตอรี่ของอังกฤษครั้งนั้นแตกต่างจากของประเทศอื่น เพราะทุกใบสามารถนำไปขึ้นรางวัลซึ่งมีมูลค่าเท่ากับราคาของลอตเตอรี่ที่กำหนดไว้
ลอตเตอรี่เหล่านี้เริ่มวางขายในปี ค.ศ.1566 และจับรางวัล ค.ศ.1569 ซึ่งก็เท่ากับว่ารัฐบาลของอังกฤษในสมัยนั้น ใช้ลอตเตอรี่เป็นเครื่องมือในการกู้ยืมเงินจากประชาชน ไม่ได้เป็นการมอมเมาตั้งหน้าตั้งตาเอาเงินเข้าคลังเหมือนที่เกิดขึ้นในบางประเทศที่อยู่ใกล้กัน
ในปี ค.ศ. 1612 ซึ่งเป็นยุคของกษัตริย์เจมส์ที่ 1 บริษัทเวอร์จิเนียแห่งลอนดอน (Virginia Company of London) ได้รับพระราชานุญาตให้ออกลอตเตอรี่เพื่อระดมทุนไปสร้างเมืองใหม่ที่สหรัฐชื่อว่า เจมส์ทาวน์
อันที่จริงแล้ว ลอตเตอรี่มีบทบาทสำคัญในการตั้งรกรากของชาวยุโรปในสหรัฐ เมืองใหม่จำนวนไม่น้อยที่ผุดขึ้นมาในยุคนั้นเกิดขึ้นได้จากการระดมทุนแบบนี้
แม้แต่มหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ก็ได้เงินส่วนหนึ่งในการก่อตั้งมาจากกิจกรรมนี้
หากมองกันตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้ว ลอตเตอรี่ก็คือการเก็บภาษีแฝงแบบมุ่งเป้า การหาเงินเข้ารัฐแบบนี้มีข้อดีตรงที่จะถูกต่อต้านน้อยกว่าการขึ้นภาษีแบบปูพรม เพราะการซื้อลอตเตอรี่เปรียบได้กับการยอมจ่ายภาษีโดยสมัครใจ ใครไม่ซื้อก็ไม่ต้องจ่าย
นอกจากนี้แล้ว งานวิจัยทางสังคมศาสตร์และเศรษฐศาสตร์จำนวนไม่น้อยให้ข้อสรุปตรงกับว่า คนที่ซื้อลอตเตอรี่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจไม่สูงนัก การควักเงินซื้อลอตเตอรี่จึงส่งผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าและความกินดีอยู่ดีของครอบครัวได้เหมือนกัน
แม้เราคงทำให้ลอตเตอรี่หมดไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยรัฐบาลก็ควรตระหนักว่า ประเทศไหนที่คนจำนวนมากต้องฝากอนาคตไว้กับการเสี่ยงทายเดือนละ 2 ครั้ง ย่อมสะท้อนให้เห็นว่า...
แม้จะพยายามทำงานหนักแค่ไหน หนทางทำมาหากินตามปกติไม่สามารถพาเขาไปถึงฝันได้ ถ้าเป็นแบบนี้มันต้องมีอะไรสักอย่างสองอย่างในประเทศที่ผิดปกติอย่างแน่นอน
คอลัมน์ หน้าต่างความคิด
ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว
อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์
[email protected]