อัปเดต! "พล.ต.ท.ปัญญา" เสียชีวิต หน้าบ้านพัก ภรรยารับสารภาพ เป็นคนลงมือ

อัปเดต! "พล.ต.ท.ปัญญา" เสียชีวิต หน้าบ้านพัก ภรรยารับสารภาพ เป็นคนลงมือ

"พล.ต.ท.ปัญญา" เสียชีวิต ที่บ้านพัก ภรรยารับสารภาพ เป็นผู้ลั่นไกยิงสามีเสียชีวิต แต่ไม่เผยสาเหตุที่แท้จริง แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนจะประสาน พฐ.เข้าเก็บคราบเขม่าตามร่างกาย และดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบศพ "พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข" ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสียชีวิตบริเวณบ้านพัก ย่านบรมราชชนนี โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เร่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมถึงการปิดล้อมพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าร่วมลงพื้นที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน นำมาสรุปคดี

พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข

 

ผบช.น. เผย "พล.ต.ท.ปัญญา" ถูกภรรยายิง คาดปมเหตุจากปัญหาในครอบครัว

ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตของ พล.ต.ท.ปัญญา มาจากการถูกภรรยายิง ขณะนี้ยังไม่สามารถพูดคุยกับภรรยาของ พล.ต.ท.ปัญญา ได้ เนื่องจากยังอยู่ในอาการช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่าต้องใช้เวลาสักระยะ จึงจะสามารถสอบปากคำได้ 

อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.จักรภพ สุคนธราช ผบก.น.7 ให้เข้าร่วมสอบปากคำ และได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำโทรศัพท์มือถือ และภาพวงจรปิดไปตรวจสอบแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากปัญหาความเครียดในครอบครัว ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องงาน หรือ เพื่อนร่วมงานแต่อย่างใด

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวอีกว่า จากการสอบถามแม่บ้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ไม่มีสัญญาณการทำร้ายร่างกายกัน หรือ สัญญาณของเหตุทะเลาะเบาะแว้งแต่อย่างใด ขณะที่บาดแผลที่พบ คือ ถูกยิงเข้าที่บริเวณราวนมซ้ายและขวา ส่วนจะเป็นปืนขนาดใด ต้องรอผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน

"พล.ต.ท.ปัญญา เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกัน อุปนิสัยส่วนตัวเป็นคนอารมณ์ดี น่ารัก สุภาพ เป็นคนมีความรู้ และขยันทำงาน สำหรับครอบครัวนี้ก็เป็นครอบครัวที่น่ารัก ซึ่งยังแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่ามาจากปัญหาความเครียดภายในครอบครัว" ผบช.น. ระบุ

สำหรับ พล.ต.ท.ปัญญา ปิ่นสุข ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร จบ รร.นรต.รุ่นที่ 40 เติบโตในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตำแหน่ง รอง ผกก.2 บก.ป , ผกก.2 ทล., ผกก.5 ปคม. ติดยศนายพลครั้งแรกในตำแหน่ง ผบก.ปทส. ก่อนที่จะขยับขึ้นเป็น รอง ผบช.ก และได้รับแต่งตั้งเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร เมื่อ 1 ต.ค.2564 จะเกษียณอายุราชการปี 2567 มีผลงานโดดเด่นในงานสอบสวน เชี่ยวชาญ คดีค้ามนุษย์ คดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ภรรยารับสารภาพ เป็นคนลงมือยิง "พล.ต.ท.ปัญญา" เสียชีวิต

เมื่อเวลา 18.30 น. วันเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำ นางพรประภา อายุ 67 ปี ภรรยาของผู้ตาย ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจตลอดเวลา ส่วนรายละเอียดและสาเหตุยังไม่เปิดเผย เนื่องจากยังอยู่อาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้าน น.ส.แหม่ม เพื่อนผู้เสียชีวิตและเป็นเพื่อนกับผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้จักกับ พล.ต.ท.ปัญญา และ ภรรยา มานานหลายปีแล้ว ซึ่งทั้งคู่รักกันดี อยู่ด้วยกันมานานหลายสิบปี ออกงานด้วยกันบ่อยๆ แต่ไม่ทราบปัญหาภายในว่ามีการทะเลาะกันหรือไม่ แต่เท่าที่ดูจากภายนอกไม่มีปัญหากัน และตัวนางพรประภาเป็นคนพูดจาดี 

"ภรรยาผู้ตายเป็นแม่บ้าน นิสัยน่ารัก ส่วนตัวสนิททั้งสามีและภรรยา จึงไม่รู้ว่านางพรประภา จะก่อเหตุยิงสามีจริงหรือไม่ หรือมีเหตุจูงใจอะไรที่จะก่อเหตุ เพราะไม่ทราบเรื่องลึกๆ ของครอบครัว ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เจอกันแล้ว แต่เจ้าตัวยังอยู่ในอาการช็อก ร้องไห้เสียใจ จึงไม่ได้สอบถามอะไร และเมื่อสักครู่มีโอกาสขอเปิดโลงขอขมาศพของ พล.ต.ท.ปัญญา โดยขอให้ผู้ตายเดินทางไปสู่ภพภูมิที่ดี" น.ส.แหม่ม ระบุ 

ขณะที่ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับน้องสาวผู้ก่อเหตุ ซึ่งเดินทางมาติดตาม ที่ สน.ธรรมศาลา แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ขอไปดูแลพี่สาวที่ตอนนี้กำลังใจแย่อยู่ เมื่อถามว่าทั้งคู่มีปัญหากันมาก่อนหรือไม่ น้องสาวผู้ก่อเหตุบอกเพียงว่าเป็นเรื่องภายใน ก่อนหน้านี้ไม่เคยทราบ ตอนที่เจอกันทั้งคู่ก็ดูรักกันดี ตอนนี้พี่สาวยังเสียใจและต้องปลอบลูกสาวไปด้วย พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่ทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้น 

ต่อมา เวลา 19.00 น. ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวน ควบคุมตัว นางพรประภา อายุ 67 ปี ภรรยาผู้ตาย ไปสอบปากคำที่โรงพัก ปรากฏว่า เจ้าตัวยอมรับเป็นผู้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงสามีตนเองจริง แต่ไม่ยอมเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากยังไม่พร้อมจะให้การกับทางตำรวจ 

เบื้องต้นผู้บังคับบัญชา จึงสั่งการให้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแก่ผู้ต้องหาเอาไว้ก่อน จากนั้น จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บคราบเขม่าตามร่างกาย และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป