เร่งชันสูตร ปมสาวใหญ่ถูกยิงตัวตาย ต่อหน้าเจ้าหนี้ เผยกู้ยืม 5 หมื่น
ส่งศพให้โรงพยาบาลเร่งชันสูตร ปมสาวใหญ่ถูกยิงตัวตาย ต่อหน้าเจ้าหนี้ เผยกู้ยืม 5 หมื่นบาท ตรวจเก็บหาคราบเขม่าดินปืนที่มือและแขนของเจ้าหนี้และเพื่อนไว้เป็นหลักฐาน
ปมสาวใหญ่ยิงตัวตาย ต่อหน้าเจ้าหนี้ เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 21 ก.พ. 2566 ร.ต.อ.วัฒนพงศ์ มูลสาลี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตภายในบ้านเช่าเลขที่ 324/20 ซอยวัดเขื่อนขันธ์ ถนนพิชัยสงคราม ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ไปตรวจสอบพร้อมกับแพทย์เวร รพ.พุทธชินราช ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ ถึงที่เกิดเหตุพบเป็นร้านรับทำประกันภัยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกชนิด
ภายในร้านบริเวณด้านหลังโต๊ะทำงาน พบศพคนตายนอนหงายจมกองเลือดอยู่ ทราบชื่อต่อมาคือ นางเกสร ด้วงบ้านยาง อายุ 47 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก สภาพศพสวมเสื้อยีนส์แขนยาวและกางเกงยีนส์ขายาว มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะเหนือหูข้างขวา 1 รู และมีอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 อยู่ที่บริเวณต้นขาข้างขวา
ตำรวจสอบสวน นายสมเกียรติ อายุ 58 ปี เจ้าของร้านให้การว่า วันนี้นางเกสรโทรศัพท์มาเคลียร์กับตน เรื่องที่เป็นหนี้อยู่ 5 หมื่นบาท ตนก็บอกว่าไม่มีก็ไม่เอาคืน ก่อนเกิดเหตุ มาที่ร้านตนพร้อมกับนางสาวจันทิมา คุ่มหน่อแนว ชาวบ้าน ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก พอเข้ามาในร้านก็คุยเรื่องเงินที่เป็นหนี้ตนอยู่ ตนก็ยังยืนยันว่าไม่มีก็ไม่เอาคืน ไม่เป็นไรอย่างเดิม
จู่ ๆ นางเกสรก็ควักอาวุธปืนออกมายิงตนเองเสียชีวิตดังกล่าว ด้านนางสาวจันทิมาให้การว่า ผู้เสียชีวิตรู้จักกับตนไปมาหาสู่กันประจำ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่กรุงเทพฯ วันนี้มาหาตนที่บ้านเพื่อจะนอนพักค้างคืนด้วย ช่วงกลางวันก็เห็นโทรศัพท์เคลียร์กับเจ้าหนี้อยู่ พอค่ำก็ให้ตนขับขี่รถจักรยานยนต์พามาหานายสมเกียรติที่เป็นเจ้าหนี้ ระหว่างที่คุยกันตนก็เดินออกมาข้างนอกแล้วได้ยินเสียงปืนดังในร้านจึงเข้าไปดู ก็พบว่านางเกสรเสียชีวิตไปแล้ว
เบื้องต้นตำรวจคาดว่า นางเกสรเกิดอาการเครียดที่หาเงินมาใช้นายสมเกียรติไม่ได้ ทำให้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงตนเองเสียชีวิต ตำรวจและแพทย์เวรจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างคนตายส่งให้แพทย์ชันสูตรโดยละเอียดอีกครั้งที่นิติเวช รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก ก่อนติดต่อญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
และทำการตรวจเก็บหาคราบเขม่าดินปืนที่มือและแขนของนายสมเกียรติรวมทั้งนางสาวจันทิมาไว้เป็นหลักฐาน และเชิญตัวทั้งสองคนไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อจะได้คลี่คลายคดีและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป