'บิ๊กโจ๊ก' ลุยสอบทุนจีน กว้านซื้อที่ดินบ้านจัดสรร จ.เชียงใหม่
"บิ๊กโจ๊ก" เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลุยสอบทุนจีนกว้านซื้อที่ดินสร้างบ้านจัดสรร และจัดตั้งบริษัทในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พบมี ผิดกฏหมาย 5 ถึง 6 แห่ง
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ พานิชย์เชียงใหม่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ และฝ่ายปกครองเพื่อติดตามความคืบหน้า หลังกรณีที่มีสื่อเสนอข่าวเกี่ยวกับทุนจีน กว้านซื้อที่ดินในอำเภอหางดง อำเภอสันทรายและ อำเภอสันกำแพง เพื่อสร้างบ้านจัดสรร เปิดร้านขายของ และเปิดบริษัท ตลอดไปจนถึงซื้อโรงเรียนเพื่อให้คนจีนมาศึกษาต่อ โดยมีคนไทยเป็นนอมินี
ก่อนหน้านี้ ทีมข่าวเนชั่น ได้เสนอข่าว กระแสชาวจีนเข้ามาซื้อบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ มีมานานกว่า 10 ปีแล้ว จนถึงปัจจุบันคาดว่าจะมีชาวจีน เป็นเจ้าของบ้านจัดสรรมากกว่า 1,000 ยูนิต ราคาขั้นต่ำยูนิตละ 3 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าไม่น่าจะต่ำกว่า 3,000-5,000 ล้านบาท โดยชาวจีนซื้อบ้านจัดสรร ใน จ.เชียงใหม่ กระจายไปยังโครงการต่างๆ ในย่านถนนวงแหวนรอบ 2 และถนนวงแหวนรอบ 3 ในพื้นที่อำเภอหางดง, อำเภอสันกำแพง, อำเภอสันทราย และอำเภอแม่ริม ซึ่งยังไม่รวมกับคอนโดมิเนียมอีกนับพันยูนิตที่ถูกชาวจีนซื้อไปแล้วจำนวนมากโดยเจ้าของคนเป็นคนจีน แต่เอกสารทางกฎหมายมีชื่อคนไทยที่มารับเป็นนอมินี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้ช่วยบัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับข้อมูลเรื่องการซื้อที่ดิน การซื้อหมู่บ้านของทุนจีนในจังหวัดเชียงใหม่ โดยวันนี้จากการสืบสวนที่ผ่านมาร่วมกับทางปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมสรรพากร และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เราพบว่ามีการซื้อหมู่บ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่แล้วมีการซื้อที่ดินเพื่อเตรียมทำเป็นคอมเพล็กซ์ และมีการเตรียมซื้อสถาบันการศึกษาของเอกชน
โดยการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาตินั้นไม่จำกัดเฉพาะคนจีนซึ่งการประกอบธุรกิจโดยถูกกฏหมายนั้นสามารถทำได้ซึ่งการประกอบธุรกิจโดยการใช้นอมินีหรือเลี่ยงการเสียภาษีอากรทำให้คนเชียงใหม่ไม่มีที่ยืนหรือการเข้ามาซื้อหัตถกรรมต่างๆและการซื้อโรงงานหัตถกรรมต่างๆรวมถึงการซื้อตัวช่างหรือศาสตร์ถ้าหากไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจังภูมิปัญญาพื้นถิ่นของเชียงใหม่จะหมดไป ซึ่งการอำนวยการวันนี้นั้นเพื่อให้คนเชียงใหม่มีที่ยืนคนไทยต้องมีที่ยืน
ส่วนคนต่างชาติที่เข้ามาซื้อนั้นมีอยู่แล้วแต่ต้องอยู่ภายใต้ของกรอบกฏหมายการเข้ามาซื้อต่างๆ นั้น ทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ขับเคลื่อนทำให้การจ้างงานมีสูงแต่ต้องอยู่ใต้ พ.ร.บ. ประกอบกิจการ 2542 ของต่างด้าว
"วันนี้ต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย โดยวันศุกร์ 10 มีนาคม 2566 นี้จะต้องทราบแล้วว่า เราจะต้องดำเนินคดีกับใครบ้าง อย่างไรก็ตามฝากไปยังทุกหมู่บ้านที่ท่านรู้ตัวแล้วว่าเข้ามาโดยใช้นอมินีวันนี้ต้องขอให้ท่านเลิกก่อนถ้าเราตรวจเจอนั้นอาทิตย์หน้าถูกดำเนินคดีแน่นอน"
อย่างไรก็ตาม ฝากไปยังคนเชียงใหม่ช่วยสอดส่องถ้าหากพบความผิดปกติให้นำข้อมูลมาให้ตำรวจซึ่งทุกหน่วยงานพร้อมบูรณาการทำงานร่วมกัน และจะมีการดำเนินการตรวจสอบภาษีอากรทั้งหมด โดยพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลเหล่านี้ก็น่าจะเป็นสูตรเดิมที่มีการ ทัวร์ศูนย์เหรียญ วันนี้ก็มาเปลี่ยนซื้อที่ดินซื้อสถานบันการศึกษาเพื่อต่อวีซ่านักเรียน ซึ่งในส่วนทุนจีนที่ฮุบที่ในเชียงใหม่นั้นตรวจพบ 5-6 แห่ง ซึ่งก็จะขยายผลดำเนินคดีทั้งหมด