สคร.9 เตือน PM 2.5 เพิ่มความเสี่ยงป่วยเรื้อรัง เตือน 4 กลุ่มโรคระวังเป็นพิเศษ
สคร.9 เตือนภัย "ฝุ่น PM 2.5" อันตราย เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรัง 4 กลุ่มโรคสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังและดูแลเป็นพิเศษ แนะประชาชนสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น งดการเผาในที่โล่ง
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึง ฝุ่น PM 2.5 ว่า เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน เกิดจากควันเผาไหม้ของโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้า ไอเสียจากรถยนต์ หรือจากการจราจร การเผาในที่โล่ง ทำให้ฝุ่น PM 2.5 สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และแทรกซึมสู่กระบวนการทำงานในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรัง ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และ 4 กลุ่มโรคสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังและดูแลเป็นพิเศษ คือ
1.กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว แน่นหน้าอก
2.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล แสบจมูกและลำคอ
3.กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ เช่น อาการคันตามร่างกาย มีผื่นแดงตามร่างกาย
4.กลุ่มโรคตาอักเสบ เช่น อาการแสบหรือคันตา น้ำตาไหล และตาแดง
จากสถานการณ์การเฝ้าระวังฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 3-9 มีนาคม 2566 พบว่า ทั้ง 3 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 9 มีค่าเกินมาตรฐานและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน แยกเป็นรายจังหวัด ดังนี้ จังหวัดนครราชสีมา ค่าฝุ่นละออง 34-88 มคก./ลบ.ม. จังหวัดบุรีรัมย์ ค่าฝุ่นละออง 30-81 มคก./ลบ.ม.และจังหวัดชัยภูมิ ค่าฝุ่นละออง 33-92 มคก./ลบ.ม. ส่วนจังหวัดสุรินทร์ ยังไม่มีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ
วิธีปฏิบัติให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5
ทำได้โดยลดการก่อมลพิษและลดการเพิ่มปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ เช่น ลดการใช้รถยนต์ที่มีควันดำ ลดการเผาขยะหรือเผาในที่โล่งแจ้ง รวมถึงดูแลทำความสะอาดบ้านให้ปลอดฝุ่น โดยการใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด หากไม่จำเป็นไม่ควรออกนอกบ้านหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น ออกกำลังกายหรือทำงานกลางแจ้ง โดยเฉพาะบริเวณหรือเส้นทางที่มีฝุ่นหนาแน่น หากจำเป็นควรสวมหน้ากากชนิดที่ป้องกันฝุ่นได้ ดื่มน้ำเพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองคอ แสบคอ
นอกจากนี้ผู้ที่เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ ควรป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากาก แว่นตา เสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันฝุ่น เพราะฝุ่นจะทำให้เกิดการระคายเคืองตาและผิวหนังได้ หากสงสัยหรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่ โดยสามารถติดตามสถานการณ์ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ได้ที่แอปพลิเคชัน Air4Thai หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422