'พยากรณ์อากาศ' 7 วันข้างหน้า 'กรมอุตุนิยมวิทยา' เตือนอากาศร้อน ระวังพายุฝน
"พยากรณ์อากาศ" จาก "กรมอุตุนิยมวิทยา" 7 วันข้างหน้า เผยความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น เตือนปชช.ไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
รายงานสภาพอากาศอีก 7 วันข้างหน้า จาก "กรมอุตุนิยมวิทยา" ระบุ "พยากรณ์อากาศ" ระหว่างวันที่ 16 - 22 มีนาคม 2566 คาดการณ์ว่า
ในวันที่ 16 – 18 มี.ค. 66 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 22 มี.ค. 66 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันและมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
- ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และอากาศร้อนไว้ด้วย ตลอดช่วง
"กรมอุตุนิยมวิทยา" ยังให้รายละเอียด "พยากรณ์อากาศ" ถึงข้อควรระวัง ระหว่างวันที่ 16 - 22 มีนาคม 2566 ระบุว่า
- ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 16 - 17 และ 20 – 22 มี.ค. 66 มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 18 - 19 มี.ค. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 16 - 18 มี.ค. 66 มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 22 มี.ค. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
- ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 16 - 19 มี.ค. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 20 - 22 มี.ค. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 – 38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
- ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 16 - 18 มี.ค. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 35 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 19 - 22 มี.ค. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณแนวชายฝั่งทะเล อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
- ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 17 - 22 มี.ค. 66 ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 36 องศาเซลเซียส
- ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมตะวันออก ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส
- กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 16 - 19 มี.ค. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 20 - 22 มี.ค. 66 อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.