ระดมค้นหา วัสดุกัมมันตรังสี "ซีเซียม-137" ล่าสุดยังไม่พบ แจ้งเบาะแสได้ 1 แสน
ระดมค้นหา "ซีเซียม-137" ล่าสุดยังไม่พบ เจ้าหน้าที่ลุยตรวจหารังสียังไม่พบแพร่กระจาย ผู้แจ้งเบาะแสได้รางวัล 1 แสน
วันที่ 17 มีนาคม 2566 นายรัชกฤต พยัคฆ์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ปส. เจ้าหน้าที่ ปภ. เจ้าหน้ามี่ตำรวจ เจ้าหน้าที่บริษัท เนชั่นแนลฯ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ อส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบตามร้านรับซื้อเศษเหล็กในพื้นที่ โดยมีการใช้โดรนและเครื่องมือเครื่องระบุชนิดสารกัมมันตรังสีหลายแบบ เพื่อค้นหา วัสดุกัมมันตรังสี "ซีเซียม-137" (Cesium-137, Cs-137) จำนวน 1 ชิ้น ลักษณะห่อหุ้มด้วยท่อเหล็กกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ในเบื้องต้นจากการวัดหาการแผ่กระจายของรังสีซีเซียมนั้นยังคงไม่พบการแพร่กระจายของรังสีในพื้นที่
นายรัชกฤต พยัคฆ์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ กล่าวว่า เราทราบข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา วันนี้เป็นวันที่ 6 แล้ว ที่เราและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตรวจค้นหา กัมมันตรังสี ซีเซียม-137 ตั้งแต่วันแรกที่มีการแจ้ง ทางเราได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบตามร้านค้าที่เป็นร้านค้าของเก่าประเภทเศษเหล็กมาแล้ว 26 ร้าน วันต่อมาเราร่วมกับทางเจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติดำเนินการตรวจสอบโดยใช้อุปกรณ์เครื่องมือระบุชนิดสารกัมมันตรังสีอีกหนึ่งรอบ ทางเราได้มีการแจ้งไปทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนให้ได้ทราบข้อมูลข่าวสาร จากผลที่ดำเนินการมาทั้งหมดเรายังไม่พบการกระจายของรังสี ทั้งนี้หากท่านใดพบเห็นสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา
ทางด้าน ดร.กิตติ์กวิน อรามรุญ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 ทางเราได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจในพื้นที่ และสำรวจปูพรมวัดภายในโรงงานจนแน่ใจประมาณ 70-80% ว่าไม่เจอ จึงได้รายงานไปทางจังหวัดเพื่อที่จะแจ้งให้ประชาชนทราบ
หลังจากนั้นทางเราได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจตามพื้นที่เสี่ยง โดยพิจารณาจากวัสดุกัมมันตรังสีว่าถ้ามีการหลุดออกไปจากโรงงาน เส้นทางของมันควรจะไปตรงไหนบ้าง ร้านขายของเก่าจนไปจนถึงโรงงานหลอมโลหะ ทางเราได้ประสานฝ่ายปกครองอำเภอ/จังหวัด เพื่อที่จะดูว่ามีร้านขายของเก่าที่ไหนในพื้นที่อำเภอศรีมหาโพธิ แล้วทางโรงงานมีคอนแทคกับร้านขายของเก่าที่ไหนบ้าง และลงพื้นที่ในการที่จะตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือตรวจสอบโดยการใช้โดรนและใช้คนในพื้นที่ชุมชน
ดร.กิตติ์กวิน เผยต่ออีกว่า ทั้งนี้เรายังใช้รถวิ่งสำรวจระดับปริมาณรังสี ณ ปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ คือประชาชนยังปลอดภัย ตอนนี้กัมมันตรังสีที่สูญหายเรายังหาไม่เจอ แต่สิ่งหนึ่งที่บอกคือตัววัสดุกัมมันตรังสียังคงอยู่ในสภาพเดิมน่าจะยังไม่มีการถูกถอดหรือเกิดการชำรุด จนทำให้ตัวต้นกำเนิดกัมมันตรังสีออกมาและส่งผลกระทบต่อประชาชน
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขยังไม่มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากกัมมันตรังสี คือเกิดอาการผื่นแดง หรือเกิดแผลไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ จึงทำให้สามารถประเมินสถานการณ์เบื้องต้นได้ว่าความอันตรายของประชาชนในพื้นที่ยังไม่มี แต่การค้นหาของเรายังดำเนินการต่อไป ในวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ทางผู้เชี่ยวชาญจะลงปูพรมตรวจสอบในพื้นที่โรงงานอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าในพื้นที่โรงงานไม่มีวัสดุกัมมันตรังสี
"ที่ผ่านมาเราได้ตรวจภายในโรงงานและรอบนอกโรงงานแล้วก็ยังไม่พบ เราจะกลับไปตรวจภายในโรงงานใหม่อีกครั้ง เพื่อที่จะรายงานให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ ได้พิจารณาร่วมกันว่าแผนการในการจะดำเนินการต่อไปเป็นอย่างไร ทางเราพยายามที่จะใช้เครื่องมือเพื่อที่จะค้นหาวัสดุกับมันตรังสีให้เจอเร็วที่สุด หากสภาพของวัสดุที่ห่อหุ้มตัวกัมมันตรังสีที่อยู่ข้างในยังมีความปลอดภัย หากไม่มีใครไปจับหรือสัมผัสหรือไม่ถูกผ่าออก ไม่ต้องกังวลไม่มีการรั่วไหลใดๆทั้งสิ้น จากข้อมูลที่เราตรวจวัดได้โดยใช้เครื่องมือระดับรังสีบอกเราว่ายังไม่มีการรั่วไหลออกมา ถ้าเจอขอให้แจ้งทางเราร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจะลงตรวจสอบโดยเร็วที่สุด"
ผู้ใดพบเห็นเบาะแสของวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 อุปกรณ์วัดระดับขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า ลักษณะทรงกระบอกหุ้มเหล็ก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม โปรดติดต่อหรือแจ้งมาที่เบอร์โทร 085-835-0190 (ได้ตลอด 24 ชั่วโมง) หรือติดต่อกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เบอร์ 1784 ทั้งนี้บริษัทมีรางวัลสำหรับผู้ชี้เบาะแส หรือนำกลับมาคืนได้สำเร็จ เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท
ข่าวภาพ สายชล หนูแดง/ ทัตธน เหล่าหล้า จ.ปราจีนบุรี