อ.แม่สาย เชียงราย วิกฤติฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูง บังคับใช้กฎหมายจับกุมลักลอบเผา
สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยเฉพาะตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่ อ.แม่สาย มีปริมาณพุ่งสูงถึง 486 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีผลกระทบต่อสุขภาพติดต่อกันมาหลายวัน
เมื่อวันที่ 26 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยเฉพาะตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่ อ.แม่สาย พบว่า มีฝุ่นละออง ขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ "PM 2.5" ว่าในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา มีปริมาณ PM 2.5 สูงถึง 486 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพติดต่อกันมาหลายวัน
อย่างไรก็ตามพบกว่า คุณภาพอากาศ เจ้าหน้าที่ภาคสนามในแต่ละพื้นที่พบค่า PM 2.5 ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ประกาศไว้ในเว็ปไซต์ของกรมควบคุมมลพิษมาก โดยในพื้นที่ อ.เทิง อ.เชียงของ ดอยแม่สลอง อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พบค่า PM 2.5 บางจุดสูงถึง 500-900 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และมีอัตราเฉลี่ยจากศูนย์ดับไฟป่าประมาณ 27 แห่งตลอดแนวชายแดนพบค่าเฉลี่ย PM 2.5 อยู่ระหว่าง 200-900 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สำหรับที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบว่า ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงต่ำมากไม่ถึง 1 กิโลเมตร โดยหมอกควันได้ปกคลุมหนาแน่นไปทั่วบริเวณ ทำให้นักท่องเที่ยวบางตาอย่างเห็นได้ชัด โดยชาว อ.แม่สาย ต่างพากันอยู่แต่ภายในบ้าน และสวมหน้ากากอนามัย บางคนเริ่มมีอาการคันตามผิวหนัง แสบตา แสบจมูก
น.ส.พรรณิษา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาแม่สาย กล่าวว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นเพราะทำให้ แสบตา แสบจมูกและคันผิวหนัง และอยากฝากไปยังคนที่ยังเผาป่า เผาไร่ ให้เห็นใจคนอื่นบ้าง คนเดือดร้อนกันทั่วไปหมดแล้ว
ด้านสถานการณ์การเผาป่าในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังตลอดแนวไม่ให้ลุกลามเข้ามาฝั่งไทยแต่ก็ทำให้เกิดฝุ่นปลิวไปทั่วบริเวณ ขณะที่ภายในประเทศพบว่ายังคงมีการลุกไหม้ของไฟป่าโดยเฉพาะบนดอยปุยและอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก อ.เมืองเชียงราย และช่วงคืนที่ผ่านมาเกิดไฟไหม้อย่างหนักบนดอยหมู่บ้านแม่สาด ต.แม่กรณ์ อ.เมืองเชียงราย เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าและชาวบ้านต่างเข้าสกัดไฟเพื่อไม่ให้ลามเข้าสู่ที่อยู่อาศัยตลอดทั้งคืน
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้ออกประกาศห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดเป็นเวลา 90 วัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย.นี้ โดยแจ้งให้หน่วยงานภาคส่วนได้เข้มงวด และหากมีการฝ่าฝืนจะต้องดำเนินคดีซึ่งมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณีลักลอบเผาในเขตพื้นที่ป่าจะต้องระวางโทษจำคุก 1 ปี ถึง 30 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-3,000,000 บาท นอกจากนี้ยังได้ชับ ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทั้งการป้องกันการลักลอบเผาป่า การบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดการเผาในพื้นที่รับผิดชอบ
สำหรับการบังคับใช้กฎหมายทางจำนวนคดีเกี่ยวกับการเผาในพื้นที่จ.เชียงราย ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวนทั้งสิ้น 15 คดีวันที่ 25 มี.ค. 66 มี
1. คดีที่จับกุมผู้กระทำผิดได้ 5 คดี แม่สรวย 2 คดี , อ.เมืองชร. อ.แม่ลาว อ.พาน อำเภอละ 1 คดี
2. คดีร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ยังจับตัวไม่ได้ 10 คดี อ.เมืองชร.4 คดี อ.เชียงของ 2 คดี อ.เวียงแก่น 2 คดี อ.เวียงชัย 1คดี อ.เวียงเชียงรุ้ง 1 คดี
สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย (ป่าอนุรักษ์) จำนวน 9 คดี
1. คดีที่จับกุมผู้กระทำผิดได้ 3 คดี แม่สรวย 2 คดี และ อ.พาน 1 คดี
2. คดีร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ยังจับตัวไม่ได้ 6 คดี อ.เมืองชร.3 คดี อ.เวียงชัย 1คดี อ.เวียงเชียงรุ้ง 1 คดี อ.เชียงของ 1 คดี
สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย (ป่าสงวน) จำนวน 6 คดี
1. คดีที่จับกุมผู้กระทำผิดได้ 2 คดี อ.เมืองชร. และอ.แม่ลาว อำเภอละ 1 คดี
2. คดีร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ยังจับตัวไม่ได้ 4 คดี อ.เมืองชร. 1 คดี อ.เชียงของ 1 คดี อ.เวียงแก่น 2 คดี