'ด่านพรมแดนแม่สอด-เมียวดี' เปิดปกติแล้ว แต่ ปชช. ยังไม่กล้าข้ามไปมา
ด่านพรมแดนแม่สอดเปิดปกติแล้ว หลังจากเสียงปืนสงบ แต่ประชาชนสองชาติยังไม่กล้าข้ามไปมา เหตุยังไม่วางใจสถานการณ์ หลังทหารเมียนมาปะทะทหารพีดีเอฟ.
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 ที่ จ.ตาก ความคืบหน้า สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด หลังจากที่กองกำลังทหารพีดีเอฟ. หรือกองกำลังปกป้องประชาชน ที่ต่อต้านสภาบริหารทหารเมียนมา เข้าโจมตีและเผาอาคาร ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจเมียวดี มีการปะทะกับฝ่ายทหารเมียนมา และสามารถยึดพื้นที่ไว้ได้ ทำให้ฝ่ายเมียนมา ประสานมายังตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก ขอให้ปิดด่านพรมแดนชั่วคราว และรถยนต์บรรทุกสินค้าต้องชะลอการส่งสินค้าไปยังจ.เมียวดี
ล่าสุด สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ฝ่ายไทยกับฝ่ายเมียนมา ได้เปิดด่านพรมแดนทางบกถาวรไทย-เมียนมา (แม่สอด-เมียวดี) บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 บ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด ตามปกติแล้ว หลังทหารพีดีเอฟ. ได้ถอนตัวออกจากพื้นที่เมียวดีแล้ว เนื่องจากที่ฝ่ายเมียนมา ใช้เฮลิคอปเตอร์กันชีพ ยิงขับไล่ทหารพีดีเอฟ. ที่ยึดพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจออกไป
โดยการเปิดด่านพรมแดนไทย-เมียนมาในวันนี้ ( 26 มี.ค.66 ) ประชาชนชาวไทย และชาวเมียนมา รวมทั้งนักท่องเที่ยว ยังไม่กล้าข้ามไปมา เพราะยังไม่ไว้วางใจสถานการณ์ ขณะที่เมื่อกลางดึก ยังมีเสียงปืนใหญ่ ที่ทางฝ่ายทหารเมียนมา ยิงออกไปเป็นห้วง ๆ คาดว่า น่าจะเป็นการยิงเคลียร์พื้นที่ เพื่อป้องกันฝ่ายต่อต้านเข้าไปโจมตีมากกว่า
ด้านทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด ร่วมกับตำรวจ สภ.แม่สอด โดยการอำนวยการของพ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน ผกก.สภ.แม่สอด ฝ่ายปกครอง อ.แม่สอด จัดชุดลาดตะเวนตามหมู่บ้านชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีการเดินทางเท้า และขี่จักรยายนต์ รวมทั้งใช้รถยนต์ฮัมวี่ของทหาร
สำหรับความสูญเสีย จากการสู้รบเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา มีทหารบีจีเอฟ. ที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ ถูกเผาทั้งเป็น 5 รายจนเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย และอาคารสำนักงาน ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจถูกเผาเสียหาย รวมทั้งอาคารต่าง ๆ ได้รับความเสียหายจากการถูกสะเก็ดระเบิด และกระสุนปืนด้วย