'ชูวิทย์' ฟ้องกลับ 'ทนายตั้ม ษิทรา' อนันต์ชัยชี้กรรมละ 100 ล้าน
ถึงพริกถึงขิง 'ชูวิทย์' ฟ้องกลับ 'ทนายตั้ม ษิทรา' อนันต์ชัยชี้กรรมละ 100 ล้าน
กรณีชูวิทย์กับทนายตั้ม ษิทรา วันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง พร้อมนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ตามที่ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง นายสันธนะ ประยูรรัตน์
นายชูวิทย์ กล่าวถึงกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ถึงกรณีใบเสนอราคาที่ระบุว่า ค่าแถลงข่าวออกสื่อ บวก 15 % จากยอดเงินที่ได้รับ ว่าการใช้สื่อเป็นเครื่องมือ เมื่อมีอาชีพทนายก็ต้องใช้กฎหมาย เมื่อมีคนเดือดร้อนเงินเขาถ้าไปคิดเงินเขาตอนแถลงข่าว 3 แสนบาท มันไม่มีโจทก์ไม่มี มันไม่มีโจทก์ไม่มีจำเลย ตัวเองก็ไม่มีหลักฐานนั่นแปลว่าคุณพูดฝ่ายเดียวหรือไม่ ตนไม่คิดว่าทนายความจะคิดเงินค่าแถลงข่าว ดังนั้น สมาคมทนายความ หรือสื่อมวลชนควรจะพิจารณา
นายชูวิทย์ ยังระบุว่า เป็นทนายความต้องใช้ความสามารถ ต้องใช้หลักฐาน ใช้พยานแต่ปรากฏว่าฝ่ายอีกฝ่ายใช้การแถลงข่าว นั่นไม่ใช่วิถีของทนายความ โดยอย่างยิ่งบอกว่าตัวเองเป็นทนายประชาชน ส่วนเงินบริจาคจำนวน 6 ล้านบาท ที่ทางโรงพยาบาลคืนมา อยากให้ติดตามว่าวันพรุ่งนี้จะเอาไปให้ใคร
นายชูวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้มีกระบวนการพยายามที่จะมาปิดปากตนเอง มีทั้งทนาย พวกหิวแสง นักร้องเรียน ใครฟ้องมา ก็จะฟ้องกลับ จะสู้ในทางกฎหมาย พร้อมสู้ทุกทาง เวลาสู้ก็จะไม่ค่อยเหมือนกัน ตนขอฝากไปบอกพวกลอบกัดว่าผมพร้อมจะกัดตอบ
ด้านทนายอันนตชัย กล่าวว่ากรณีที่ทนายตั้ม ออกมาแถลงเรื่องการรับเงินสีเทา กับสื่อนั้นเข้าข่ายหมิ่นประมาท ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางนายชูวิทย์ได้โทรมาขอร้องให้ตนเองทำคดีทนายตั้มได้มาปรึกษาว่าสิ่งที่ทนายตั้มโพสต์นั้นเจ้าข่ายความผิดใดบ้าง จากการพิจารณาเบื้องต้นจะพิจารณา ใน 3 ประเด็น
1.พฤติกรรมดังกล่าวจะความผิดฐานหมื่นประมาทด้วยการโฆษณาหรือมไม่ จะต้องดูที่พฤติกรรม ตอนนี้ นายชูวิทย์ กำลังเปิดโปงขบวนการ คอรัปชั่น และ ทุนจีนสีเทา แต่กลับถูกออกมาแฉ มองว่ามีส่วนได้ส่วนเสียหรือไม่ ทั้งที่ไม่มีประจักษ์พยาน เป็นเพียงแค่พยานที่กล่าวอ้างเท่านั้น และการที่ทนายตั้ม เอารูปที่ถ่ายแค่ถุงเงินมานั้น เป็นการแบล็คเมล์ แต่กลับไม่มีรูปชูวิทย์รับเงิน ส่วนจำนวนเงินที่บอกว่า 10 ล้านนั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่าจำนวนเงินที่แท้จริงเท่าไหร่อาจจะถูกดึงไประหว่างทาง แต่ยืนยันว่ามาถึงชูวิทย์เพียงแค่ 6 ล้าน ซึ่งตอนนั้นชูวิทย์ก็ปฏิเสธไปแล้วแต่ก็ไม่รับคืนจึงเอาไปทำบุญ
2. พฤติกรรมของทนายตั้ม ผิดมรรยาททนายความหรือไม่ มีการแถลงข่าวที่คลาดเคลื่อน ไม่มีหลักฐาน แต่เป็นการยกข้อมูลขึ้นมาลอยๆ ซึ่งนายชูวิทย์ ไปแจ้งร้องสภาทนายความให้ตรวจสอบ
3. ทางทนายความ ได้พูดถึงกรณีที่ เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ออกมา ให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ ว่าการนำเงินของนายชูวิทย์ไปบริจาคอาจเข้าข่ายการฟอกเงิน ซึ่งตนมองว่าไม่ควรให้สัมภาษณ์ในลักษณะชี้นำแบบนั้น ควรจะให้สัมภาษณ์ว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบหรือรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิด ม.157 และ ม.200
ทนายอนันตชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากนี้จะไม่ให้นายชูวิทย์ พูดถึงกรณีทนายตั้มกับ สื่อมวลชน เพื่อจะได้ไม่เสียรูปคดี และขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขบวนการยุติธรรม หากทนายตั้ม มีการพูดพาดพิง ก็จะฟ้องกรรมละ 100 ล้านบาท พร้อมพูดว่าใช้สติจะมีปัญหา ทำในสิ่งที่ถูกต้องอย่าทำในสิ่งที่ถูกใจ