เร่งคุมไฟป่าลามขึ้นดอยสุเทพ หวั่นลุกลามซ้ำรอยปี 63

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ดอยสุเทพ-ปุย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดับไฟป่า และทำแนวป้องกันไฟป่าลุกลามขึ้นดอยสุเทพ ทั้ง 9 โซนได้สำเร็จ

โดยโซนที่ 1 บ้านปางยาง จำนวน 7 จุด ควบคุมไฟได้แล้ว รอไฟลุกลามชนแนวกันไฟ เจ้าหน้าที่ทุกชุดถอนกำลังออกทั้งหมด

โซนที่ 2 บ้านแม่นาไทร จำนวน 7 จุด ไฟลามขึ้นที่สูง พื้นที่สูงชันหน้าผา ไม่สามารถเข้าดำเนินการได้ ไฟลุกลามระยะทาง 500 เมตร กำลังพลทหาร ร7พัน1 จำนวน 10 นายกำลังได้ทำแนวกันไฟป้องกันไว้ 

 

โซนที่ 3 บ่อแร่บ้านใหม่สันคะยอม จำนวน 2 จุด กำลังควบคุมไฟ กำลังพล 24 นาย

โซนที่ 4 บ้านทุ่งโป่งใต้ จำนวน 1 จุด ควบคุมไฟได้แล้วเคลื่อนย้ายกำลังพลทั้งหมด 10 นาย เข้าบ่อแร่

โซนที่ 5บ้านปงเหนือ 3 จุด ไฟดับสนิทควบคุมไฟได้แล้ว ถอนกำลังทั้งหมดชาวบ้าน 5 นาย

โซนที่ 6 บ้านแม่เหียะในและโซนที่ 7 (กม.17) 7 จุด สถานการณ์รุนแรง ไฟไหม้ลุกลามขึ้นไปบริเวณทิศเหนือ ดำเนินการทำแนวกันไฟป้องกัน กำลังพล 17 นาย

โซนที่ 8 ผาฆ้องผากลอง 2 จุด ทำแนวกันไฟ รอไฟลุกลามชนแนวกันไฟบริเวณลำห้วย ควบคุมหัวไฟได้แล้ว กำลังพล 20 นาย

โซนที่ 9 สามแยกทางไปนาไร่หลวงจากห้วยตึงเฒ่า 4 จุด ไฟดับแล้ว ถอนกำลังทั้งหมด 19 นาย

นายวุฒิชัย โสมวิภาต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เปิดเผยว่า ได้ระดมกำลังป้องกันไฟลุกลามขึ้นดอยสุเทพ เนื่องจากเป็นป่าใกล้เมืองและมีเชื้อเพลิงสะสมหนาแน่น จึงได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ทำแนวกันไฟเพื่อควบคุม ซึ่งล่าสุดหลายจุดไฟดับแล้ว บณะเดียวกันยังต้องเฝ้าระวังไฟป่า ประทุซ้ำขึ้นมาได้

ขณะเดียวกัน ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ภาค 3 ระดมกำลังพล จากหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 30 นาย สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย สถานีควบคุมไฟป่าภูพิงค์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้นำชุมชน เดินเท้าออกลาดตระเวนโดยกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 120 นาย แบ่งเป็น 4 ชุดปฏิบัติการ ออกลาดตระเวนในพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า 4 จุด คือ ป่าตาดหมาไห้ และป่าดอยกอม อำเภอเมืองเชียงใหม่, ป่าวัดป่าธรรมชาติ อำเภอหางดง และป่าสันดอยปางยาง-ผานกกก อำเภอแม่ริม เพื่อป้องปรามไม่ให้มีคนเข้าไปลักลอบจุดไฟเผาป่าเพิ่ม อีกทั้งยังช่วยให้ดับไฟได้ทันทีที่พบไฟไหม้ป่า