ตำรวจจีน ขอเข้าสอบปากคำสาวไทย นางนกต่อ คดีฆ่านศ.จีน
จนท.สอบสวนของจีน ร้องขอหลักฐานสำคัญคดีฆ่านศ.จีน เตรียมจัดส่งแปลให้ 21 เม.ย.นี้ พร้อมขอไปดูจุดเกิดเหตุ และเข้าสอบปากคำสาวไทย นางนกต่อ เพื่อประกอบสำนวนคดี 3 ผู้ต้องหาจีน รับนำกลับมาดำเนินคดีไทยยาก เหตุข้อหาจีนลงโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต
ความคืบหน้า ภายหลังตำรวจจีน ได้จับกุม 3 ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่า น.ส.จิน ซ่าน นักศึกษาชาวจีน ที่ถูกกลุ่มคนร้ายอุ้มเรียกค่าไถ่เป็นจำนวน 2,500,000 บาท หรือ 2.5 ล้านบาท โดยมีสาวไทยเป็นนางนกต่อนั้น
ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ได้เปิดเผยว่า อุปทูตจีนได้มาหารือในประเด็นเรื่องแก๊งอุ้มบุญ และกลุ่มทุนจีนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงการประสานขอข้อมูลให้พนักงานสอบสวนจีนที่ได้ร้องขอหลักฐานสำคัญจากพนักงานสอบสวนฝ่ายไทย ได้รายงานการสืบสวนสอบสวนภาษาจีน ซึ่งตนจะทำเรื่องขออนุมัติจาก ผบ.ตร. และจัดส่งแปลเป็นภาษาจีนให้กับตำรวจจีนในวันที่ 21 เมษายน นี้
"ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนของจีน ร้องขอไปดูจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนไทย จะอำนวยความสะดวกให้ และสิ่งที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของจีน ต้องการคือขอเข้าสอบปากคำ น.ส.ชนิดา ผู้ต้องหาหญิงชาวไทย เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีดำเนินคดีกับ 3 ผู้ต้องหาชาวจีน"
ส่วน 3 ผู้ต้องหาชาวจีน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่ามีแนวคิดอยากได้ตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย เนื่องจากกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย จึงมีความประสงค์ดำเนินคดีที่ประเทศไทย พร้อมยอมรับอาจมีความเป็นไปได้ยากเนื่องจากข้อหาคนจีนฆ่าคนจีนด้วยกัน แม้จะเกิดนอกแผ่นดินจีน ทางการจีนมีบทลงโทษสถานหนักถึงขั้นประหารชีวิต แต่จะทำหนังสือเป็นทางการขอดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งทางการจีนก็สามารถดำเนินคดีที่ประเทศจีนได้เช่นกัน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่ตำรวจได้พบศพหญิงไม่ทราบชื่อ ถูกนำมาทิ้งที่ บริเวณริมคลองริมป่าบัว ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พื้นที่รับผิดชอบ สภ.บางแม่นาง ต่อมาทางด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามสืบสวนหาตัวคนร้ายในคดีนี้
จนกระทั่งต่อมา ทราบว่า ผู้ตายคือ น.ส.จิน ซ่าน นักศึกษาชาวจีน ที่ถูกกลุ่มคนร้าย ติดต่อ ส่งข้อมูลภาพถ่ายของผู้ตายไปยังผู้ปกครองที่ประเทศจีน เพื่อเรียกค่าไถ่เป็นจำนวนเงิน 500,000 หยวน หรือเป็นเงินไทยจำนวน 2,500,000 บาท แต่ผู้ปกครองไม่ยอมโอนเงินให้ สุดท้ายถูกฆ่าเสียชีวิต และนำศพไปทิ้ง
ต่อมา ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุในคดีนี้ คือ
1.นายโจว เผิงเฟย (Mr.ZHOU PENGFE) อายุ 24 ปี สัญชาติจีน เพื่อนชายคนสนิทของผู้ตาย
2.นายเฉิน ไซคัง (Mr.CHEN SAIKANG) อายุ 23 ปี สัญชาติจีน
3.นายโจว เซี่ยงเฟย (M.ZHOU XIONGFEI) อายุ 23 ปี สัญชาติจีน
หลังก่อเหตุได้เดินหลบหนีออกนอกประเทศไทย และถูกตำรวจจีนจับกุมได้ที่ มณฑลหูเป่ย โดยทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้ส่งทีมสอบสวน สตม. เพื่อนำหลักฐานและให้ข้อมูลกับทางการจีน เพื่อซักถามผู้ต้องหาชาวจีน ทั้ง 3 คน และนำลายพิมพ์นิ้วมือ ส่งมายัง พนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง เพื่อเปรียบเทียบลายนิ้วมือแฝง ที่พบในสถานที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนผู้ต้องหาชาวจีนได้รับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกระทำความผิดจริง และอ้างว่ามีหญิงไทยทำงานในบาร์ ย่านอินทามระ ให้ความร่วมมือ โดยได้รับเงินค่าจ้างในการให้คำแนะนำเป็นจำนวนเงิน 40,000 บาท เพื่อให้ติดต่อกับผู้ตาย โดยหญิงคนไทยแนะนำให้ชาวจีนไม่ก่อเหตุที่โรงแรมหรือรีสอร์ท เนื่องจากมีกล้องวงจรปิดที่อาจเป็นหลักฐานได้
ส่วนสาเหตุสังหารผู้ต้องหาไม่บอก แต่ยืนยันว่า ไม่มีผลต่อสำนวนคดี เนื่องจาก ตำรวจมีหลักฐานสมบูรณ์แล้ว จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาพบว่านายโจว เผิงเฟย เพื่อนชายคนสนิท เป็นคนเริ่มลงมือสังหารก่อน โดยมีเพื่อนชายชาวจีนอีก 2 คน ให้ความร่วมมือ
สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด ถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกัน เอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปี ไปโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายหรือวิธีการข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายซึ่งให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอา ตัวไปถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง นั้นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ โดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันทำให้เสียหายหรือเคลื่อนย้าย ทำลาย ซ่อนเร้น ยักย้าย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพหรือสวนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุ แห่งการตาย และร่วมกันลักทรัพย์
จากการขยายผล พบชาวไทยเข้าไปเกี่ยวข้องกระทำผิด คือ น.ส.ชนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา ร่วมกัน เอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปี ไปโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายหรือวิธีการข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายซึ่งให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เป็นเหตุให้ผู้ถูกเอา ตัวไปถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง นั้นถึงแก่ความตาย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ โดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันทำให้เสียหายหรือเคลื่อนย้าย ทําลาย ซ่อนเร้น ยักย้าย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพหรือสวนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้เพิ่มเติม