กระหึ่มโซเชียล 'ค่าไฟทิพย์' บิลเรียกเก็บครึ่งหมื่น กฟภ.แกลง ยอมรับผิด
ฮอตมาก กระหึ่มโซเชียล 'ค่าไฟทิพย์' บิลเรียกเก็บครึ่งหมื่น กฟภ.แกลง จ.ระยอง มั่วเองแจงแล้ว ยอมรับผิด ช่างไฟเสียบสายมั่ว
กรณี "ค่าไฟทิพย์" หรือ การบ้านไม่ได้ใช้ไฟฟ้าแต่ถูกเรียกเก็บเงิน การไฟฟ้าออกบิลเรียกเก็บครึ่งหมื่น กฟภ.แกลง จ.ระยอง ชี้แจง
หลังจากมีการแชร์ กรณีไม่มีคนอยู่บ้าน แถมมีการสับคัตเอาท์ลง แต่ปรากฎยอดค่าไฟพุ่ง 2 เดือน กว่า 5,621 บาท ล่าสุดผู้จัดการไฟฟ้า อ.แกลง จ.ระยอง ชี้แจงด่วน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว กรณีบ้านพักหลังหนึ่งใน ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง ไม่มีคนอยู่ และได้มีการสับสวิตคัตเอาท์ลง จนกระทั่งเดือนมีนาคม ต่อเนื่องเดือนเมษายน การไฟฟ้า อ.แกลง จ.ระยอง ได้มีการเรียกเก็บ ค่าไฟ 2 เดือน เป็นเงิน 5,621 บาท
ทำให้เจ้าของบ้าน ต้องรีบติดต่อแจ้งไปยัง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.แกลง ให้รีบเดินทางมาตรวจสอบ
จนกระทั่งพบข้อเท็จจริง ว่า เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ได้มีการนำเอาหม้อแปลงไฟฟ้ามาติด แต่ดันเสียบสายผิด จึงเป็นเหตุทำให้ “มิเตอร์” หมุนทำงานอยู่ตลอดเวลา จนเกิดยอดการใช้ไฟ พุ่งสูงถึง 5,621 บาท
ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้รับการติดต่อจาก ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.แกลง เพื่อขอชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยนายเมธา เมืองมีทรัพย์ ผจก.การไฟฟ้าแกลง ได้ออกมาชี้แจงดังนี้ กรณีเกิดค่าไฟทิพย์นั้น เป็นความผิดพลาดของช่างรับเหมาของการไฟฟ้า ซึ่งได้มีการนำเอามิเตอร์ ไปติดกลับแล้วเสียบสายผิด จึงทำให้เกิดภาระค่าไฟฟ้า จำนวน 5,621 บาท กับบ้านหลังนั้น ซึ่งค่าไฟฟ้าจำนวนดังกล่าว ได้ติดต่อแจ้งเจ้าของบ้านไปแล้วว่า ไม่ต้องจ่าย
ต่อมาทีมข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์ น.ส.ประกายแก้ว อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ โดยน.ส.ประกายแก้ว ได้ยืนยันว่า ตั้งแต่เกิดค่าไฟทิพย์ ได้พยายามติดต่อการไฟฟ้าสำนักงานใหญ่กรุงเทพ และการไฟฟ้า อ.แกลง จ.ระยอง มาโดยตลอด เพื่อขอความชัดเจน เรื่องค่าไฟทิพย์ที่เกิดขึ้น ว่าจะต้องจ่าย หรือชำระเงินด้วยหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ไม่มีความชัดเจน จนกระทั่งได้มีการร้องเรียนมาทางสื่อมวลชน
และหลังจากเป็นข่าวออกไป เพียง 2 ชั่วโมง กลางดึกของคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ผู้จัดการของการไฟฟ้า อ.แกลง ได้โทรศัพท์มาหาตนเองพร้อมกับแจ้งว่า เรื่องค่าไฟจำนวน 5,621 บาทนั้น ไม่ต้องจ่าย ทางการไฟฟ้าจะรับผิดชอบเอง ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ถ้าไม่เป็นข่าว เรื่องที่เกิดขึ้น ก็ยังไม่รู้ว่า จะจบอย่างไร