อัปเดต 'แอม ไซยาไนด์' สรุปประเด็น คดีวางยาฆ่าต่อเนื่อง 12 ศพ

ทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ "แอม ไซยาไนด์" จากกรณีข่าวการเสียชีวิตของหญิงรายหนึ่ง ชื่อว่า น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย อาการเป็นลมและหัวใจวายเฉียบพลัน ญาติติดใจสงสัยจนนำไปสู่ข้อพิรุธของการเสียชีวิต ว่าอาจจะเป็นการฆาตกรรม พบว่า มีผู้ที่เสียชีวิตในลักษณะเดียวหลายราย และทุกรายมีความเกี่ยวข้องกับ น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม 

เรื่องราวเงื่อนงำ "ฆาตกรรมต่อเนื่อง" ถูกขยายความออกไป จนเกิดความสนใจเกี่ยวกับและข้อหาข้อมูล แอมก้อย , แอมราชบุรี , แอมเมียรอง ผกก. ราชบุรี , แอมสรารัตน์รังสิวุฒาภรณ์ จนล่าสุดกลายเป็น "แอม ไซยาไนด์"

ขณะนี้ แอม ไซยาไนด์ ถูกฝากขังตามอำนาจของศาลอาญา รัชดาฯ ยังไม่ได้รับการประกันตัว หลังวานนี้ ตำรวจกองปราบ เจ้าพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ได้ควบคุมตัว สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาคดีวางยาฆ่าผู้อื่น มายื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีอดีตสามีเป็นตำรวจ เกรงจะไปข่มขู่พยาน ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และคดีอื่นที่มีลักษณะเดียวกันนี้อีก 9 คดี มีอัตราโทษสูง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• โผล่อีก แม่เชื่อลูกเหยื่อ 'แอม' วางยา 'ไซยาไนด์' หลังเจอได้เพียงวันเดียวดับ

• โดนวางยาพิษไซยาไนด์ มีวิธีแก้เบื้องต้นหรือไม่? เผยสิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด

• โซเชียลสับทนายของแอม ปมวางยาเพื่อนสนิท พูดไปหัวเราะไปไม่สนญาติผู้สูญเสีย

ทั้งนี้ ไม่มีญาติ มายื่นคำร้องและหลักทรัพย์ ขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงนำตัวนางสรารัตน์ ไปควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

แอมคือใคร

แอม สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม อายุ 36 อดีตเมียตำรวจ ยศ พ.ต.ท. มีตำแหน่ง รอง ผกก. ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี มีลูกด้วยกันสองคน ต่อมาคบกับนายแด้ปล่อยเงินกู้ซึ่งถูกวางยาตาย ขณะแอมตั้งครรภ์ตอนนี้

แอม มีพ่อแม่อยู่ทึ่กาญจนบุรี มีพี่สาวสองคน มีอาชีพแพทย์แผนไทย และอีกคนมีอาชีพพยาบาล

ยาแคปซูลอ้างรักษาโควิด และโรคต่างๆ แอมเคยบอกให้คนรู้จักไปเอายาแคปซูลจากพื้นที่บางเพ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นที่ผลิตยาสมุไพรของพี่ที่เป็นแพทย์แผนไทย

 

สรุปพฤติการณ์ "แอม ไซยาไนด์" 

คำร้องฝากขัง สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ของตำรวจกองปราบ สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุนางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาออกอุบายนัดหมายให้ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย ผู้ตายไปพบที่หมู่บ้าน เพื่อจะพาผู้ตายไปฆ่าแล้วฆ่าเอาทรัพย์สิน

เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2566 เวลาประมาณ 06.30 น. ผู้ตายได้ขับรถยนต์ โตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียนกาญจนบุรี ออกจากบ้านของตนเอง ที่จ.กาญจนบุรี มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านพฤกษาการ 1 จ.นครปฐม เมื่อมาถึงหมู่บ้านผู้ตายได้นำรถยนต์มาจอดไว้แล้ว เดินมาขึ้นรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียนนครปฐม โดยมีผู้ต้องหาเป็นคนขับ

จากนั้นผู้ต้องหาได้ขับรถออกจากหมู่บ้านไปกับผู้ตาย ระหว่างที่ผู้ตายและผู้ต้องหาอยู่ในรถ ผู้ต้องหาได้นำสารพิษไซยาไนด์ใส่ในอาหารหรือเครื่องดื่มให้ผู้ตายบริโภคโดยมีเจตนาฆ่า 

วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. แอมผู้ต้องหาและก้อยผู้ตายขับรถยนต์มาถึงบริเวณศาลาประชาคมริมแม่น้ำแม่กลอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และได้จอดรถบริเวณนั้น โดยผู้ตายเดินลงบันได เพื่อไปปล่อยปลา

ส่วนแอมผู้ต้องหาไม่ได้เดินตามไปด้วยหลังจากที่ผู้ตายปล่อยปลาได้สักพัก ขณะกำลังจะเดินขึ้นบันไดก็หมดสติล้มลง เมื่อผู้ต้องหาเห็นว่าก้อยผู้ตายกำลังหมดสติ จึงเดินลงบันไดไป จากนั้นก็เดินกลับขึ้นมาเพียงคนเดียว โดยไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ตาย ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุสามารถบันทึกภาพไว้

โดยภายในมือของผู้ต้องหาได้เอาโทรศัพท์มือถือของก้อยผู้ตายบางส่วนมาด้วยหลายเครื่อง แล้วขับรถยนต์ออกจากที่เกิดเหตุไป ปล่อยให้ผู้ตายนอนหมดสติอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยผู้ต้องหาไม่ให้ความช่วยเหลือใด ๆ จนผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา

เส้นทางสืบคดี "แอม ไซยาไนด์" 

จากการสืบสวนของตำรวจทราบว่า หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2566 แอมผู้ต้องหาได้นำถุงดำ ซึ่งภายในมีกระปุกใส่ Potassium Cyanide (โพแทสเซียมไซยาไนด์) สารพิษ พร้อมกับสิ่งของอื่น ๆ กรอบป้ายทะเบียน บัตรเอทีเอ็ม และเอกสารการเสียชีวิตของนายสุทธิศักดิ์ หรือแด้ แฟนของผู้ต้องหาที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2566 ในท้องที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยผู้ต้องหานำถุงดำไปฝากไว้กับผู้อื่น เพื่อให้เอาไปซุกซ่อน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึด ไซยาไนด์ และสิ่งของอื่น ๆ ได้ในเวลาต่อมา 

จากการตรวจพิสูจน์สารคัดหลั่งจากศพของน.ส.ศิริพร หรือก้อยผู้ตาย โดยกลุ่มงานพิษวิทยา สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ พบสารไซยาไนด์ ในเลือด ปริมาณที่เป็นสาเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ เชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นผู้นำสารพิษไซยาไนด์ ใส่ในอาหารให้ผู้ตายบริโภคช่วงเวลาที่ผู้ต้องหาอยู่กับผู้ตาย 

ต่อมาวันที่ 24 เม.ย. 2566 มารดาของก้อยผู้ตายได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.ดำเนินคดีผู้ต้องหา ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานของอำนาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับที่ 1285/2566 ลงวันที่ 25 เม.ย. 2566 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ได้ที่อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 10 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจชันสูตรพลิกศพ รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ และประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.-7 พ.ค.2566

"แอม ไซยาไนด์" วางยาฆ่าชิงทรัพย์-ล้างหนี้?

ส่วนใหญ่เหยื่อของแอม มักเป็นคนในวงแชร์ที่ตนเองเป็นเท้าแชร์ มีเรื่องทรัพย์สินและหนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นกรณีเหยื่อในพื้นที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร ซึ่งเสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน 4 ราย คือ เสียชีวิตหลังจากออกสำนักร่างทรง ที่เเอมพาไปหา 

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จ.สมุทรสาคร สอบถามกับครอบครัวผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง ชื่อว่า นางรสจรินทร์ นิลห้อย หรือ "เจ๊น้อย" อายุ 39 ปี หรือชื่อในวงเเชร์ของแอม ว่า "พี่น้อยผัก" เนื่องจากขายผักสด อยู่ที่ตลาดมหาชัย 

ข้อมูลไทม์ไลน์การเสียชีวิต "เจ๊น้อย" พบว่า เข้าร่วมวงเเชร์  4 ส.ค. 65 และได้เสียชีวิตลง ในวันที่ 10 ส.ค. 65 หลังกรณีของผู้กองนุ้ย หรือ ร.ต.อ.หญิง กานดา โตไร่ เหยื่อรายที่ 3 เพียง 1 วัน 

สามี "เจ๊น้อย" เปิดเผยว่า "เจ๊น้อย" รู้จักแอมมา  6 - 7 เดือน เพราะเล่นเเชร์กันที่ราชบุรี ในช่วงที่ภรรยารู้จักกับเเอมก็เห็นท่าทางเขาดูดี มาดคุณนาย ไม่ได้มีอะไรที่จะบ่งบอกว่า จะเป็นคนที่มีเเผน หรือเป็นคนไม่ดี มาคอยรับส่ง มาคุยกัน ชวนกันไปทำบุญ 

เริ่มผิดสังเกตคือ เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่มีการหยิบยืมกันไปมา ซึ่งตนก็ทราบความจริงไม่หมด เพราะหลังจากภรรยาเสียชีวิต ได้เพียงวันเดียว ข้อความทางเฟซบุ๊กที่ภรรยาคุยกับนางสาวแอม ก็ถูกลบออกไป ก่อนหน้านี้ นางสาวแอม มีความพยายามที่จะให้ภรรยา นำที่ดินไปจำนอง เพื่อให้ได้เงิน 6 เเสน เเละจะขอยืมเงินครึ่งหนึ่ง หรือ 3 เเสนบาท เเต่เมื่อคิดดูเเล้วว่าได้ไม่คุ้มเสีย จึงไม่เอาที่ดินไปจำนอง 

สามี "เจ๊น้อย" เผยวันที่ "เจ๊น้อย" เสียชีวิต ตนอยู่ราชบุรี ช่วงเช้าได้มีการคุยกัน ก็ยังไม่ได้มีอาการผิดปกติ เเต่ผลชันสูตรการเสียชีวิตคือ ขาดออกซิเจนในเลือด หลังจากที่ภรรยาเสียชีวิต ก็ไม่เคยคิดว่า นางสาวแอม จะมีส่วนเกี่ยวข้อง เเต่ก็มองดูว่ามันเเปลก ๆ เเต่ก็ไม่รุ้ว่าสาเหตุใด

หลังจากที่ได้ติดตามข่าวก็เห็นว่าเเปลก ๆ จากนั้นมีร่างทรงโทรมาบอกว่า จะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้เเล้ว เพราะแอม ไซยาไนด์เคยพาเจ้น้อยมาหา เเละยังเปิดเผยด้วยว่า มีหลายคนที่พามาหาร่างทรง พอกลับจากสำนักร่างทรง เสียชีวิตรวม 4 ราย รวมถึง "ครูอ๊อด" ซึ่งอยู่ที่นครปฐม 

สามี "เจ๊น้อย" กล่าวว่า ไม่เคยคิดว่า เขาจะก่อเหตุ หรือเป็นคนเเบบนี้ เพราะภรรยาตัวเองมาเล่าให้ฟัง ชื่นชมแอมอย่างนั้นอย่างนี้ว่า เป็นคนดี เเต่ตนก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงทำเเบบนี้ เเละหลังจากที่ภรรยาเสียก็ยังถูกแอมหลอกไปอีก 3 เเสนบาท

แอมกับทนายปมทวงหนี้

สามี "เจ๊น้อย" เผยอีกแอมมาพร้อมทนาย บอกว่าเจ๊น้อยติดหนี้เขา 5 เเสนบาท เเละยังเอารถไปจำนำ โดยจะให้ใช้หนี้เเทน ซึ่งส่วนหนี้ตนไม่รู้เรื่องด้วย เเต่เรื่องรถเขาบอกว่า เป็นเงินสามแสนก็จ่ายให้ไป แต่ทราบภายหลังว่า จำนำเขาไว้เเค่ 1 เเสนบาท จึงอยากให้แอม ถูกดำเนินคดีให้ถึงที่สุด 

ขณะที่ลูกน้องของเจ๊น้อยที่เป็นคนพยุง เเละหามเจ๊น้อย ส่งโรงพยาบาล เล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุตนขายผักอยู่ในร้าน เจ๊น้อยสั่งให้เคลียร์พื้นที่ร้าน เพราะจะสั่งของมาลงให้เยอะ และออกจากร้านไป โดยบอกว่าเดี๋ยวเจ๊ไปหาตังค์ก่อน จากนั้นกลับมา ก็กลับมาอย่างสวยเพราะไปทำผมมา 

จากนั้น เจ๊น้อยก็เอากล่องโฟมของแอม ซึ่งมาที่ตลาดสดมหาชัย เพื่อซื้ออาหารทะเล จากนั้น เจ๊น้อยก็กลับมาพร้อมกับอาหาร ก่อนจะนำมารับประทาน แต่จู่ ๆ ก็หงายหลัง ตกลงจากเก้าอี้ ในมือก็ยังถือโทรศัพท์คุย ชักเกร็ง ตัวเเข็ง เเละไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ตอนเเรกที่เห็นเจ๊น้อยล้ม ก็คิดในใจว่า เจ๊น้อยต้องโดนวางยา เเต่ไม่กล้าพูด พอหลังเขาตาย ก็เก็บอาหารไว้ก่อน เเล้วจึงทิ้งไปตอนเช้า 

จากการข้อมูลที่ร่างทรง สำนักร่างทรงที่ชื่อว่า อาศรม พุทธศิลป์ ออกมาเปิดเผยว่า แอมเคยพาเหยื่อมาที่นี่หลายราย และพอออกจากสำนักร่างทรงเเล้วก็เสียชีวิต ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปที่สำนักร่างทรงดังกล่าว ในพื้นที่ เทศบาลมหาชัย มีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว มุงด้วยหลังคาจาก ภายในมีรูปปั้น ฤาษี ต่าง ๆ รวมถึงอุปกรณ์ในการประกอบพิธีต่าง ๆ เเต่ปรากฎว่าไม่พบ ร่างทรงเจ้าสำนัก เมื่อติดต่อทางฤาษีเจ้าสำนัก ก็ไม่รับสาย
 

ข้อมูล 13 เหยื่อ "แอม ไซยาไนด์" ความสัมพันธ์

รายละเอียดของ เหยื่อถูกวางยา ที่พบความเชื่อมโยงกับแอม ทั้งหมด 13 ราย เสียชีวิต 12 ราย และรอดชีวิต 1 ราย ดังนี้

รายที่ 1 ชื่อฟ้า
เหตุเกิด วันที่ 13 ธันวาคม 2563
สถานที่เกิดเหตุ : บ้านพัก จ.นครปฐม

รายที่ 2 นายสุรัตน์ ทรพับ
เหตุเกิดวันที่ 16 มกราคม 2564 
สถานที่เกิดเหตุ :  บ้านพักที่ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
ความสัมพันธ์ : เป็นเพื่อนสนิทสมัยมัธยมของแอม

รายที่ 3 ร.ต.อ.หญิง กานดา โตไร่ หรือผู้กองนุ้ย 
เหตุเกิดวันที่ 10 สิงหาคม 2665
สถานที่เกิดเหตุ : ถนนเพชรเกษมขาออก อ.เมือง จ.นครปฐม 

รายที่ 4 นางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิณ
เหตุเกิดวันที่ 15 สิงหาคม 2565 
สถานที่เกิดเหตุ บ้านพัก ชะอำ จ.เพชรบุรี
ความสัมพันธ์ : รายนี้ เพิ่งได้รับแจ้งมา และอยู่ระหว่างรอที่จะเข้ามาให้ข้อมูลตำรวจ

รายที่ 5 นางมณีรัตน์ พจนารถ
เหตุเกิดวันที่ 10 กันยายน 2565
สถานที่เกิดเหตุ : พื้นที่ อ.เมือง จ.นครปฐม

รายที่ 6 น.ส.กะณิกา ตุลาเดชารักษ์ (เอ๊ะ)
เหตุเกิดวันที่ 12 กันยายน 2565 
สถานที่เกิดเหตุ :  ปั๊ม ปตท. บริเวณวงเวียน โพธาราม จ.ราชบุรี
ความสัมพันธ์ : รายนี้ที่ครอบครัวมาให้ข้อมูลในวันนี้ โดยรู้จักกันผ่านโซเชียลมีเดีย และมีปัญหาทุกข์ใจปรับทุกข์กัน

รายที่ 7  นางสาวผุสดี สามบุญมี 
เหตุเกิดวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565
สถานที่เกิดเหตุ : อ.ดอนตูม จ.นครปฐม

รายที่ 8 นายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้
เหตุเกิดวันที่ 12 มีนาคม 2566
สถานที่เกิดเหตุ : บ้านพัก จ.อุดรธานี
ความสัมพันธ์ : รายนี้เป็นสามี "น.ส.แอม" ที่ไม่ได้จดทะเบียนกัน และเป็นพ่อของลูก ในท้อง น.ส.แอม ปัจจุบันด้วย ซึ่งมีข้อมูลว่า ชนวนก็มาจากเรื่องของทรัพย์สินเงินทองเช่นกัน

รายที่ 9 พ.ต.ต. หญิง นิภา แสนจันทร์ หรือ สารวัตรปู
เหตุเกิด วันที่ 1 เมษายน 2566
สถานที่เกิดเหตุ : องค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม
ความสัมพันธ์ : รายนี้ที่ปรากฎภาพวงจรปิดไปทำบุญด้วยกันแล้วล้มไป

รายที่ 10 น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ ก้อย ท้าวแชร์ รายล่าสุด
เหตุเกิด วันที่ 14 เมษายน 2566 
สถานที่เกิดเหตุ ท่าน้ำบ้านโป่ง จ.ราชบุรี 

ส่วนรายที่ 11 และ 12 อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลที่ชัดเจน และรอเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ

ส่วนผู้ที่รอดชีวิต รายที่ 13 มีการอาเจียน มีอาการ หมดสติ หลังจากไปทานข้าวกับแอม 
สถานที่เกิดเหตุ จ.กาญจนบุรี และเป็นภรรยาของนายตำรวจ

เบาะแสพี่ของ แอม ไซยาไนด์ เป็นเภสัชกร

"บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังสอบปากคำ นางกานติมา ผู้รอดชีวิต ภรรยารองผู้กำกับ ตชด. ในจังหวัดกาญจนบุรี นานกว่า 2 ชั่วโมง ว่ารู้จักกับแอมเพราะต่างเป็นภรรยาของรองผู้กำกับ ซึ่งสามีของตนเอง เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับอดีตสามีของแอม ในช่วงเกิดเหตุเดือนกันยายน 2565 ตนเองติดโควิดและมีอาการไออย่างต่อเนื่อง 

ก่อนหน้านี้ แอมได้ขอยืมเงินจำนวน 250,000 บาท ตนเองก็ให้ไป โดยในวันเกิดเหตุแอมโทรศัพท์มาชักชวนตนเอง ให้ไปรับประทานอาหารในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี ตนเองมีอาการไอและหอบเหนื่อย แอมจึงส่งยาอ้างว่าเป็นยาสมุนไพรต้านโควิดให้ตนเองกิน 

ตอนนั้นจึงรับยามากินเพราะเกิดความไว้ใจ เนื่องจากมองว่านางสาวแอมเป็นเพื่อน แต่หลังจากกินยาเสร็จต่างคนก็ต่างแยกย้ายและขับรถ เพื่อไปพบกันที่ห้างสรรพสินค้า ตนเองก็มีอาการแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออก มือชา จึงโทรศัพท์ไปหาแอมให้มาช่วยแต่แอม บอกว่าหลงทางอยู่ ไม่สามารถที่จะมาช่วยได้ ตนเองจึงโทรศัพท์ไปที่สายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งรถฉุกเฉินได้มารับด้วยความรวดเร็ว จึงได้ลงจากรถ และขึ้นรถฉุกเฉิน หลังจากนั้นก็สลบไป และหัวใจหยุดเต้นทันที

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า จากการสอบประวัติเบื้องต้น แอมมีพี่สาวอยู่ในอำเภอโพธิ์ธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดราชบุรี เข้าค้นและหาหลักฐาน ว่าพี่สาวจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่ ปมยาพิษไซยาไนด์ อย่างไรก็ตาม ในส่วนการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ที่เป็นบ้านพักของนางสาวแอม ที่จังหวัดนครปฐม อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลว่าเจอหลักฐานอะไรบ้าง

ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่าพนักงานสอบสวนได้มีการอายัดศพของก้อย หรือ น.ส.ศิริพร ขันธ์วง ไว้แล้ว เพื่อรวบรวมพยายหลักฐานทางคดี แต่หลังจากเก็บพยานหลักฐานแล้วจะส่งคืนให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งขณะนี้ศพของผู้เสียชีวิต อยู่ที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ

สรุปประเด็น แอม ไซยาไนด์

- เลือกเหยื่อในวงแชร์มีทรัพย์สินและมีหนี้ต่อกัน
- เลือกคนรู้จักและเพื่อนสนิทของตนเองและอดีตสามี รองผกก.
- มักใช้เรื่องการไปทำบุญหรือไปสำนักทรง
- จะพูดจาดี บริการอาหารและเครื่องดื่ม
- ลงมือกับเหยื่อแล้วจะเก็บโทรศัพท์มือถือและทรัพย์สินไว้
- ลบข้อความหรือยกเลิกข้อความที่คุยกับเหยื่อที่ตายไปแล้ว
- ทวงหนี้กับครอบครัวผู้ตาย

ทั้งนี้ ต้องติดตามว่า ใครเป็นผู้ช่วยเหลือเรื่องเกี่ยวกับยาพิษ และใครช่วยเหลือเกี่ยวกับข้อกฎหมายและคดีในการหาประโยชน์จากผู้ตายหรือไม่ ซึ่งนี่เป็นคดีใหญ่ของสัมคมไทยที่ต้องถอดบทเรียน

 

ที่มาข้อมูล - เนชั่นออนไลน์ กรุงเทพธุรกิจ และ สำนักข่าวเนชั่น