เปิดพฤติกรรมโหดเหยื่อรายล่าสุด 'แอม ไซยาไนด์' ส่งยาแคปซูลให้ อ้างยาลดน้ำหนัก
พบพฤติกรรม "แอม" พัวพันธุรกิจสีเทา รับจำนำ ปล่อยเงินกู้ หลังพบรถสวมทะเบียนปลอม ขณะที่ สามีเหยื่อรายล่าสุดให้ข้อมูล พฤติกรรมโหด ส่งยาสอดไส้ไซยาไนด์ใส่แคปซูล อ้างยาลดน้ำหนัก ตร.มุ่งปมฆ่าเหยื่อล้างหนี้ จ่อเรียกพยาบาลรพ.ย่านธนบุรี พยานรายสำคัญ ซักถามประเด็นตั้งวงแชร์
ตำรวจเดินหน้าสืบสวนอย่างต่อเนื่อง หาข้อมูลพฤติกรรม “สาวแอม” โดยรายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวน เจ้าหน้าที่พบว่า พฤติกรรมของ นางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาวางยาฆ่าเหยื่อชิงทรัพย์ ล้างหนี้ เริ่มเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา ประเภท ปล่อยเงินกู้ รับจำนำรถ ตั้งวงแชร์ หรือ เล่นแชร์ ตั้งแต่ช่วงที่คบหากับนายสุมธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็น 1 ในเหยื่อที่เชื่อว่าถูกนางสรารัตน์ วางยาฆ่าในพื้นที่ จ.อุดรธานี เช่นเดียวกัน
สำหรับหลักฐานสำคัญที่ทำให้เชื่อว่านางสรารัตน์ เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาดังกล่าว คือ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน 5กศ 7028 กทม. ของ นางสรารัตน์ ที่ตรวจยึดได้ขณะจับกุมตัวที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เนื่องจากตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวมีการสวมแผ่นป้ายทะเบียนปลอม
นอกจากนี้ จากการสอบปากคำ ด.ต.นิติพนธ์ นุชิต อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บช.สตม. หรือ นายต้า สามีของ น.ส.สาวิตรี บุตรศรีรักษ์ หรือ หนิม อายุ 40 ปี เหยื่อรายล่าสุดที่พบเสียชีวิตในพื้นที่ จ.มุกดาหาร ทราบว่า น.ส.สาวิตรี เริ่มรู้จักกับ นางสรารัตน์ ผู้ต้องหา จากการลงทุนแชร์ สอดคล้องกับข้อมูลการติดต่อของ นางสรารัตน์ กับ น.ส.สาวิตรี ที่ช่วงก่อนเสียชีวิตมีการติดต่อหากันอยู่บ่อยครั้ง ก่อนนางสรารัตน์ จะส่งของมาให้อ้างเป็นยาลดน้ำหนัก ชนิดแคปซูลมาให้ เพราะเห็นว่า น.ส.หนิม เพิ่งคลอดลูก แต่ครั้งแรกที่ส่งมา ไม่สามารถรับประทานได้ เนื่องจากแคปซูล ตัวยาเกิดละลาย ก่อนจะมีการส่งซ้ำมาให้ใหม่อีกครั้ง
จนกระทั่งมีการรับประทานแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2563 โดยสาเหตุการเสียชีวิตใบชันสูตรมีการระบุว่า มีโปรแทสเซี่ยมในเลือดปริมาณสูง
โดยมูลเหตุของคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่มุ่งไปที่การฆ่าล้างหนี้ เนื่องจาก นางสรารัตน์ ติดหนี้ น.ส.สาวิตรี เป็นเงินหลักแสนบาท สอดคล้องกับพฤติกรรมคดีอื่นๆ ที่ค่อนข้างชัดเจนว่า ผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ที่นางสรารัตน์ ติดเงินอยู่นั้นมักจะเสียชีวิตในลักษณะเดียวกัน
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ น.ส.จอย พยานบุคคลที่เป็นเพื่อนสนิทกับ น.ส.สาวิตรี ยังพบว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย. หลัง นางสรารัตน์ ก่อเหตุวางยาฆ่า น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย เท้าแชร์ อายุ 33 ปี จนเสียชีวิต นางสรารัตน์ ได้โทรศัพท์และส่งข้อความมาหา น.ส.จอย เพื่อสอบถามขั้นตอนการติดตามหาคนหายของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า วันนี้ทางตำรวจกองปราบยังได้ติดต่อไปหา น.ส.นก เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านธนบุรี พยานบุคคลสำคัญอีกรายหนึ่ง มาเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน เพื่อซักถามประเด็นรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลกลุ่มวงแชร์ ของ นางสรารัตน์ โดยมีกำหนดนัดหมายเดินทางมาเข้าให้ปากคำในวันที่ 30 เม.ย.นี้