'พ.ต.ท.' อดีตสามี 'แอม ไซยาไนด์' สารภาพ 2 ข้อหา-ปฏิเสธเรื่องฆาตกรรม

'พ.ต.ท.' อดีตสามี 'แอม ไซยาไนด์' สารภาพ 2 ข้อหา-ปฏิเสธเรื่องฆาตกรรม

"พ.ต.ท." อดีตสามี "แอม ไซยาไนด์" เปิดปากสารภาพ 2 ข้อหาตามหมายจับ แต่ปฏิเสธไม่รู้เห็นเรื่องฆาตกรรม ส่งฝากขังพรุ่งนี้ ด้าน "บิ๊กโจ๊ก" เตรียมสอบ "น้อยหน่า" เมียน้อย อดีตสามีแอม 

ความคืบหน้าคดี "แอม ไซยาไนด์" เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 3 พ.ค.66 ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาสอบปากคำ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รองผู้กำกับ (สอบสวน) อดีตสามี นางสรารัตน์ หรือ "แอม"

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า พ.ต.ท.วิฑูรย์ ให้การดีขึ้น โดยรับสารภาพข้อหาตามหมายจับ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ยอมรับว่า รู้เห็นในเรื่องทรัพย์บางส่วน และรับสารภาพในสองข้อหาตามหมายจับ แต่ปฏิเสธ ไม่รู้เห็นเรื่องการฆาตกรรม โดยหลังสอบปากคำ จะนำตัวไปควบคุมไว้ที่ สภ.เมืองนครปฐม ก่อนนำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐมในวันพรุ่งนี้ (4 พ.ค.) เบื้องต้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี ส่วนในข้อหาอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และพฤติการณ์ที่อาจจะเข้าข่ายความผิด ซึ่งหากพบก็จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ในภายหลัง

ส่วน "น้อยหน่า" ที่ว่าเป็นภรรยาน้อยของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ นั้น ตอนนี้ตัวอยู่ที่นี่แล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มการสอบสวน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า วันพรุ่งนี้ (4 พ.ค.) ตนจะไปเรือนจำเพื่อสอบปากคำ แอม เพราะเชื่อว่าหลังจากติดคุกไปหลายวันน่าจะรู้ผิดชอบชั่วดีมากขึ้น โดยแอม รับสารภาพว่า เป็นคนไปรับ น.ส.มณฑาทิพย์ หรือทราย อายุ 37 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร เหยื่ออีกคน ที่สนามบิน ทั้งนี้ตนจะเข้าไปคุยสอบปากคำเพิ่มเติมภายในเรือนจำ 

ส่วนข้อหาตามหมายจับของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ นั้นมีข้อหารับของโจร, ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ซึ่งเจ้าตัวให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงวันหยุดนี้จะทำความจริงให้กระจ่าง อย่างน้อยในวันจันทร์-อังคารนี้จะบอกสื่อมวลชนได้ ในส่วนของน้อยหน่า ภรรยาน้อยของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ อาจจะรู้ข้อมูลเยอะ เพราะอยู่ใกล้ชิด เขาเป็นสามีภรรยาย่อมรู้ว่าเส้นทางการเงินเป็นอย่างไร คน 3 คนไปในสถานที่เดียวกัน ย่อมต้องทราบรายละเอียด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับผู้ที่ซื้อไซยาไนด์ทางออนไลน์ต้องมีวัตถุประสงค์ ซื้อไปทำอะไร ตอนนี้เรามีข้อมูลทั้งหมดแล้วว่าใครซื้อไปบ้าง รวมถึงบุคคลที่เป็นดาราด้วย ซึ่งมีบุคคลที่ซื้อไปนับ 100 ราย หากพบพิรุธหรือมีความน่าสงสัยจะเรียกมาสอบสวน และคนใดซื้อไปทำผิดวัตถุประสงค์จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

“ตำรวจต้องบริหารคดีด้วยความเที่ยงตรง ถ้าจะเอาผิดเขาจะต้องให้มีความชัดเจน วันนี้สังคมอาจจะตัดสินไปแล้ว แต่ในส่วนพนักงานสอบสวนเองการดำเนินคดีอาญาต้องมีหลักฐาน และมีหลักฐานอยู่หลายจุด เราต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งให้อัยการ หากอัยการเห็นว่า สำนวนยังขาดก็ต้องทำเพิ่ม เพื่อให้เกิดความชัดเจน เพื่อให้ศาลพิพากษาลงโทษให้ได้ สำหรับคดีนี้ ผบ.ตร. ได้ให้กองปราบรวบรวมทำคดี โดยยื่นฟ้องศาลอาญาเพียงศาลเดียว เพื่อชี้ให้ศาลเห็นถึงความเชื่อมโยงการเสียชีวิตของแต่ละคดี” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว