จับ 'พยาบาลสาว' พร้อมแฟน 'หนุ่มวิศวะ' ขายออนไลน์ปืนเถื่อน รับเลือกตั้ง 66
กวาดล้างช่วงก่อนวันเลือกตั้ง 66 ค้นกว่า 60 จุด 42 จังหวัด จับผู้ต้องหา 50 ราย ยึดปืน 77 กระบอก ระเบิดปิงปอง-กระสุนอีกเพียบ หนึ่งในนั้น เป็น พยาบาลสาว รพ.ดังย่านรามอินทรา ร่วมแฟนหนุ่มวิศวะ สั่งซื้อปืนสวัสดิการ 22 กระบอก ดัดแปลงลำกล้องส่งขายออนไลน์
กรณีจับพยาบาลสาว พร้อมแฟนหนุ่มวิศวะ ขายออนไลน์ปืนเถื่อน ก่อนวันเลือกตั้ง 66 ช่วงวันนี้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ ร่วมกันแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้าง และอาวุธสงคราม โดยปูพรมตรวจค้น 60 จุดใน 42 จังหวัด จับกุมผู้ต้องหา 50 คน พร้อมของกลางอาวุธปืน 77 กระบอก ระเบิดปิงปอง 1 และลูกเครื่องกระสุนปืนชนิดต่างๆ รวม 2,440 นัด
สืบเนื่องจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและอาวุธสงคราม ก่อนวันเลือกตั้ง ในห้วงระหว่างวันที่ 4-10 พ.ค. โดยคดีที่น่าสนใจเป็นการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหารายสำคัญ เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา
พฤติการณ์จำหน่ายอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนในระบบออนไลน์ โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล และซุ้มมือปืน โดยการขยายผลพบรายละเอียดของการสั่งซื้ออาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน จำนวนมาก จากนั้นตำรวจได้ล่อซื้อกระสุนปืน 1 กล่อง พบต้นทางส่งมาจากบ้านหลังหนึ่ง ในซอยรามอินทรา 65 แยก 2-2 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน
จึงขอหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านดังกล่าว พร้อมจับกุม น.ส.พิตตินันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เป็นพยาบาล โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา และนายชยุต (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนขนาดต่างๆ 19 กระบอก แบ่งเป็นปืนมีทะเบียน 17 กระบอก ในจำนวนนี้มีปืนของทหารที่ถูกนำมาจำนำ 1 กระบอก และปืนบีบีกันอีก 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืนกว่า 2,000 นัด
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การว่า อาวุธปืนทั้งหมดเป็นของหญิงสาวรายดังกล่าว ซึ่งอ้างว่าปืนนั้น แฟนหนุ่มซึ่งเป็นวิศวกรช่างกลได้นำชื่อตนเองไปซื้อ เพราะได้สิทธิสวัสดิการ แต่ไม่ทราบเรื่องการจำหน่าย สินค้าที่นำไปส่ง แฟนหนุ่มได้แพ็คใส่กล่อง และให้ตนเองนำไปส่งให้ โดยที่ไม่ทราบว่าข้างในเป็นอาวุธปืน
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบประวัติทั้งหมดพบว่า นางพยาบาลคนนี้ มีชื่อซื้ออาวุธปืนสวัสดิการทั้งสิ้น 21 กระบอกภายในปี 62-63 และต่อมาในปี 65 ซื้อเพิ่มอีก 1 กระบอก ซึ่งมากผิดปกติ จึงได้ควบคุมตัวนางพยาบาล และแฟนหนุ่มไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาวุธปืนบางกระบอกพบว่า มีบางส่วนเป็นปืนบีบีกัน แต่มีการเปลี่ยนแปลงลำกล้อง ยกตัวอย่างเช่น ปืนขนาด . 22 แต่มีการดัดแปลงลำกล้องเพื่อให้ใช้กับกระสุน M4 ได้ ซึ่งในส่วนนี้ถือว่า เป็นความผิดตามกฏหมายเนื่องจาก ตามกฏหมายระบุประชาชนสามารถครอบครองอาวุธปืนได้เพียงขนาด.22 ซึ่งถือว่าผิดวัตถุประสงค์
นอกจากนี้ยังพบว่า มีใช้ช่องโหว่ของกฎหมายซื้อปืนสวัสดิการในราคาถูก แต่ปืนอยู่กับบุคคลอื่น ต้องสลักหลังทิ้งไว้พอ 5 ปีถึงโอน เป็นต้น อย่างไรก็ตามในส่วนนี้ ทาง บช.สอท.อยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อขยายผลกวาดล้าง