เปิดประวัติ ส.ว.กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ โต้คารมเดือด น.ต.ศิธา ปมโหวตนายกฯ พิธา

เปิดประวัติ ทำความรู้จักหนึ่งในสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ที่กำลังถูกพูดถึงในโลกโซเชียล หลังได้พูดคุยผ่านโทรศัพท์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ (ยามเย็น) วันที่ 16 พ.ค.66 ที่ผ่านมา ประเด็น 'โหวตนายก' ที่เจ้าตัวมาให้ความเห็นว่าอาจจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นหาก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ที่ได้คะแนนเสียงจากการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 ได้เป็นนายกฯ นอกจากนี้ยังมีการปะคารมตอบโต้กันอย่างดุเดือดกับ น.ต.ศิธา ทิวารี ด้วย

ประวัติ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ

ประวัติกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ อายุ 67 ปี เกิดวันที่ 28 มีนาคม 2499 ภูมิลำเนาเป็นชาว จ.พิจิตร ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ส.ว. เลือกโดยคณะ คสช. และควบตำแหน่งอื่นๆ เช่น รองประธานคณะกรรมาธิการ กมธ. การพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา และกรรมาธิการ กมธ. การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา

การศึกษา กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ จบมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า โรงเรียนคลองขลุง จ.กำแพงเพชร และมีอาชีพเกษตรกร กระทั่งต่อมาก็เริ่มลงเล่นการเมืองจากการเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งใหญ่ จ.พิจิตร จากนั้นก็ปรากฏชื่อของนายกิตติศักดิ์ เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จากการแต่งตั้งโดย คสช.

เมื่อปี พ.ศ. 2562 กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ได้แจ้งทรัพย์สินและรายได้ในปีดังกล่าวว่า มีรายได้ต่อปี 284,000 บาท รายจ่าย 240,000 บาท มีทรัพย์สิน 1,654,849.42 บาทและมีหนี้สิน 300,160 บาท

ผลงานการทำงาน เคยเป็นแกนนำชาวนา ติดตามเงินค่าจำนำข้าว คณะกรรมการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวจังหวัดพิจิตร จับโรงสี โกงเงินจำนำข้าวกว่า 100 ล้านบาท อุปนายกสมาคม เครือข่ายชาวนาไทย เป็นประธานชาวนาภาคเหนือ เป็นประธานร่างพระราชบัญญัติข้าว ประธานเครือข่ายชาวนาภาคเหนือ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเป็น สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในปัจจุบัน

ชื่อของ กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากหลังล่าสุดได้เปิดใจประเด็นโหวตนายก ผ่านรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ (ยามเย็น)  ที่มีสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมแขกรับเชิญ น.ต.ศิธา ทิวารี

นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ หนึ่งใน ส.ว.จาก 250 คนระบุว่า หากมีการเสนอชื่อของ พิธา ลิ้มเจริญ เป็นนายกรัฐมนตรี หรือตนก็ไม่มั่นใจว่าจะเป็น พิธา หรือเปล่า เพราะเขาถูกร้องเรียนจาก กกต.หลายเรื่อง และฟังจากหลายๆฝ่ายดูท่าทางจะไม่รอดด้วยซ้ำไป แต่หากรอดมาได้ สำหรับ ส.ว. กิตติศักดิ์ มองว่า คุณพิธา มีพฤติกรรม เช่น การนำมวลชนไปปิดล้อมสภาฯ ที่การประชุมร่วมอยู่ ซึ่งผมก็อยู่ในนั้นไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งเป็นต้น ถนัดใช้กำลังมากกว่าสมอง ตนคิดว่ารับไม่ได้ และเรื่องสถาบันด้วย เช่น นโยบายมาตรา 112 การปฏิรูปทหาร ยกเลิกผู้ว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งตนคิดว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลให้ประเทศไทยร้อนเป็นไฟ หากคุณพิธา เป็นนายกฯ และจะทำให้เกิดความขัดแย้งนำไปสู่สงครามทางการเมืองได้ 

ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี ให้ความเห็นว่า คนไทยเขาดูอยู่ และก็ได้เห็นตามคอมเมนต์ว่าเขามีความเห็นยังไง การที่จะถ่วงดุลให้ประเทศเดินไม่ได้ เป็นกลไกเผด็จการทำให้ประเทศเดินไม่ได้ การเลือกตั้งที่ผ่านมาก็เห็นว่าประชาชนเอาลุงตู่แค่ 10% ส่วนอีก 90% เขาไม่เอา ไม่เว้นแต่การเลือกตั้งในหน่วยทหาร ซึ่งลุงตู่ก็แพ้ราบคาบทั้งหมด ก็ต้องฉุกคิดได้แล้วว่ากระแสประชาชนเป็นอย่างไร มันสะท้อนชัดเจนแล้ว 

อยากบอกกับท่านว่า ท่านเกิดในแผ่นดินนี้ ถ้าท่านคิดว่าระบบอะไรที่มันผิดเพี้ยน ที่มันไม่ได้เป็นประชาธิปไตยแล้วมันถ่วงดุล ที่ผมบอกว่าเป็นไอ้เข้ขวางคลองที่ทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าไม่ได้ ถ้าท่านมีดวงตาที่เห็นธรรม ท่านจะรู้ว่าการเป็นกลไกให้กับเผด็จการแบบนี้ มันทำให้ประเทศชาติถอยหลัง เสียหาย 

เพราะฉะนั้น ตนไม่ได้คิดที่จะดึงท่านกิตติศักดิ์ ขึ้นมาพ้นน้ำเลยครับ ผมไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนความคิดของท่านเลย ผมเห็นด้วยกับท่านนะหากเขาคุยกันและเสนอคุณเศรษฐา หรือคุณอุ๊งอิ๊งมา ท่านบอกท่านจะเลือกผมก็สาธุ ว่าไม่จำเป็นต้องเป็น 2 ลุงที่ให้กำเนิดท่านมา 

จากนั้น นายกิตติศักดิ์ ก็โต้ว่าอย่างนี้ถ้าผมบอกว่าคุณศิธาเป็น เหี้.. ได้ไหม ซึ่งเรื่องน้เป็นที่วิจารณ์กันว่าถึงวุฒิภาวะและความไม่เหมาะสมในการเลือกใช้คำของ ส.ว. ผู้ทรงเกียรติรายนี้ จนเกิดแฮชแท็ก ส.ว.มีไว้ทำให้นำมาสู่ประเด็นดราม่าเดือดที่เกิดขึ้น