จนท.การเงิน 'สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย' โร่มอบตัว สารภาพยักยอกเงิน 10 ล้าน

จากกรณีที่สมาชิกของสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริตของเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ยักยอกเงินฝากของประชาชน เพราะถอนเงินจากสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยไม่ได้

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ค.66 นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยขณะที่นายชาญชัย เดินเข้ามาในห้องประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะหันไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานภายในห้องประชุม ทั้งยังตำหนิผู้จัดการและประธานสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยที่ร่วมประชุม โดยได้ถามถึงการทำงานว่าทำอะไรอยู่ ถึงปล่อยให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนระยะเวลาเป็นปี แต่ไม่ทำอะไรเลยจนเหตุการณ์ลุกลาม อีกทั้งยังบอกอีกว่าไม่เชื่อว่าจะสามารถทำคนเดียวได้โดยที่ผู้บริหารไม่ทราบ

พร้อมทั้งกล่าวกลางที่ประชุมด้วยน้ำเสียงเข้มว่า เรื่องนี้ในฐานะที่ทำงานร่วมกับท่านผู้ว่าฯขอนแก่นมานาน ไม่ชอบที่จะให้มีเรื่องผิดกฎหมายบนความทุกข์ของชาวบ้าน จะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ และจะติดตามความคืบหน้า และขอสาปแช่งผู้ที่เอาเงินในบัญชีของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยไป ขอให้ครอบครัวฉิบหาย

ล่าสุดวันนี้ (25 พ.ค.66) พ.ต.อ.เดชาธร ดีมี ผกก.สภ.เปือยน้อย กล่าวว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่การเงินสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ที่ถูกสหกรณ์แจ้งความจับนั้น ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวานนี้ (24 พฤษภาคม) จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง และควบคุมตัวไปฝากขังครั้งแรก ที่ศาลจังหวัดพล เป็นเวลา 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก และมีมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท หากให้ประกันตัวออกมา เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี

พ.ต.อ.เดชาธร กล่าวอีกว่า ล่าสุดมีชาวบ้านเข้าแจ้งความแล้ว 60 ราย มูลค่าความเสียหาย 15 ล้านบาท สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสหกรณ์ฯ ดังกล่าว ขอให้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ จากนั้นคณะทำงานจะพิจารณารวบรวมเอกสารพยานหลักฐาน หากพบการทุจริตอีก ก็จะมีการแจ้งข้อกับผู้ก่อเหตุเพิ่มเติมต่อไป 

ด้าน น.ส.เอ นามสมุติ ผู้ต้องหา อ้างว่า ตนเองเป็นญาติกับผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย และได้เข้าไปทำงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่การเงิน เห็นเงินหมุนเวียนในแต่ละวันของสหกรณ์เป็นจำนวนมาก และทำงานมาตั้งแต่ปี 61 เรียนรู้งานทุกอย่างจากทางผู้จัดการ

กรณีที่เกิดขึ้นยอมรับว่า เป็นคนเอาเงินไปจริงและทำคนเดียว โดยช่วง 2 ปีหลัง ที่ผ่านมา ได้ทยอยเอาเงินไปจำนวน 10 ล้านบาท สาเหตุเอาเงินออกไปใช้ เนื่องจากตนเองติดการพนันบาคาร่า และนำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัว ก่อนทางสหกรณ์จะตรวจสอบพบ และสั่งพักงาน ในส่วนนี้ก็ต้องยอมรับผิดและว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย