แฉส่วย 'รถตู้รับส่งนักเรียน' ต้องจ่าย ค่าแป๊ะเจี๊ยะ เทอมละ 5,000 บาท
จากส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ถึงแฉส่วย 'รถตู้รับส่งนักเรียน' ต้องจ่าย ค่าแป๊ะเจี๊ยะ เทอมละ 5,000 บาท ค่าดูแลนาย แลกยัดเด็กเพิ่ม
โชเฟอร์"รถตู้รับส่งนักเรียน" แฉส่วยรถตู้ต้องจ่ายค่าแป๊ะเจี๊ยะ รายเทอมละ 5,000 บาท และรายเดือนละ 200 บาท ไว้เป็นค่าดูแลนาย แลกยัดเด็กเพิ่ม และรถไม่ได้มาตรฐานผิดระเบียบ
จากกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์แฉถึง"ส่วยสติกเกอร์ติดรถบรรทุก"ที่เป็นสัญลักษณ์การจ่ายส่วย ให้ไม่ต้องรับโทษทางกฎหมาย กรณีบรรทุกน้ำหนักเกินกำหนดจนแพร่สะพัดดังไปทั่ว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 จากการสอบถามผู้ประกอบการคนขับรถตู้รับส่งนักเรียนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ที่มีทั้งหมดกว่า 1,000 คัน และมีมากที่สุดในเขตอำเภอเมืองชัยภูมิ
โดยมีผู้ประกอบการคนขับรถตู้รับส่งนักเรียน ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิแจ้ง ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ใช่แค่รถบรรทุกบนทางหลวงที่โดนเรียกเก็บส่วย พวกเขาที่เป็นเจ้าของคนขับรถตู้รับส่งนักเรียนแต่ละหมู่บ้านทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิ ก็โดนเรียกเก็บส่วยเช่นกัน แต่ไม่เกี่ยวกับตำรวจทางหลวงหรือกรมการขนส่งฯหรือตำรวจในท้องที่แต่อย่างใด
รถที่จะได้รับอนุญาตให้วิ่งออกรับส่งนักเรียนตามหมู่บ้านต่างๆนั้น ทุกคันจะ ต้องผ่านการตรวจสภาพรถฯกับกรมการขนส่ง และมีการตรวจเช็คความปลอดภัยของทั้งตัว คนขับ และรถฯให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้นักเรียนปลอดภัยเช่น ต้องมีถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือ กรณีเกิดอุบัติเหตุไว้ในรถ
และมีข้อจำกัดว่า รถนักเรียนคันหนึ่งต้องมีนักเรียนบนรถไม่เกิน 13 คน เพื่อไม่ให้เป็นการแออัดเกินไป
คนขับรถตู้รับส่งนักเรียนรายหนึ่ง ที่ให้ข้อมูลเขาว่า รถนักเรียนส่วนใหญ่ก็ผิดกฎหมาย คือไม่ได้ขออนุญาตถูกต้องจากกรมการขนส่งทางบกอยู่แล้ว เวลาเปิดเทอม ก็จะมีคนของนายทุนใหญ่ เจ้าของเส้นทางสัมปทานรถโดยสารฯจะส่งคนเข้าไปเช็คแต่ละโรงเรียน ว่าที่นี่มีรถตู้วิ่งรับส่งนักเรียนกี่คัน มีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ และจะบอกว่าให้จ่ายค่าสัมปทานเส้นทางให้เจ้าของสัมปทานเส้นทางรถโดยสารไว้สำหรับเป็นค่าสัมปทานเส้นทางและเอาใช้จ่ายค่าดูแลเจ้านาย
โดยทั้งค่าแรกเข้าวิ่งจ่าย 5,000 บาทต่อเทอม และจ่ายเป็นรายเดือน เดือนละ200บาทต่อคัน นอกนั้นตัวแทนเก็บส่วยก็จะให้หมายเลขโทรศัพท์ของตัวแทนนายทุนใหญ่เจ้าของสัมปทานเส้นทางฯ ไว้ให้หากขับรับส่งนักเรียนไปตามที่ต่างๆ จะได้ไม่โดนโบก แต่ถ้ารถค้นใดไม่จ่าย ก็จะเจอโบกเช้าโบกเย็น โดยเงินดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปให้นายทุนเดินรถฯใหญ่ อีกที
ซึ่งตามกฎหมายนั้น รถนักเรียนที่เป็นรถตู้รับส่งนักเรียนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ จะบรรทุกนักเรียนได้ อย่างมากนักเรียนนั่งได้ 13 คน แต่ส่วนมากยอมจ่าย เพื่อจะได้บรรทุกนักเรียนเข้าไปเพิ่มมากขึ้นถึง 20 คน ก็เลยจำเป็นต้องยอมจ่ายกัน
เพราะทุกวันนี้เฉพาะเก็บค่ารายเดือนกับเด็กนักเรียนรายละ 800-900 บาทเท่านั้น หากให้คนขับรถรับส่งนักเรียนบรรทุกนักเรียนได้เพียง 10-13 คนก็จะไม่คุ้ม เนื่องจากค่าใช้จ่าย ดังนี้
- ค่าน้ำมัน
- ค่าส่วยรายเทอม
- ค่าส่วยรายเดือน
จึงจำเป็นต้องยอมจ่ายส่วยให้กับตัวแทนนายทุนใหญ่เจ้าของสัมปทานเส้นทางวิ่งรถโดยสารฯของจังหวัดชัยภูมิดังกล่าว
อยากขอวอนให้ผู้มีอำนาจได้ช่วยเหลือบอกให้ตัวแทนนายทุนใหญ่ที่เดินเก็บส่วยรถตู้รับส่งนักเรียนให้ช่วยหยุดเก็บส่วยด้วยเพื่อไม่เป็นการเพิ่มภาระของเจ้าของรถและส่งผลถึงพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กนักเรียนตัวน้อยๆจะได้จ่ายค่ารถถูกลงมาอีก