ศาลอาญาสั่งเบิกตัว 'แอม ไซยาไนด์' ไต่สวนคดีฟ้องหมิ่นฯ 'รพี' 24 ก.ค.นี้
ศาลอาญาสั่งเบิกตัว "แอม ไซยาไนด์" จากเรือนจำ เบิกความคดีฟ้องหมิ่นประมาท "รพี" 24 ก.ค.นี้ หลังทนายพัชเป็นตัวแทนแอมขึ้นศาลไต่สวนครั้งแรก ส่วน "รพี" ยันพูดในรายการเป็นข้อเท็จจริง มองฟ้องปิดปาก
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 1 มิถุนายน 2566 ศาลอาญาถนนรัชดาฯ นัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดีที่ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ "แอม ไซยาไนด์" ผู้ต้องหาคดีวางยาฆาตรกรรมเหยื่อหลายราย ฟ้องนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดี "แอม ไซยาไนด์" ฐานความผิดหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา
โดยในวันนี้ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ "ทนายพัช" ทนายความโจทก์ มาในฐานะผู้รับมอบอำนาจจาก "แอม ไซยาไนด์" ในคดีเพื่อเป็นพยานเบิกความต่อศาล ขณะที่ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายของนายรพี ฝ่ายจำเลย ที่ถูกฟ้อง ก็เดินทางมาพร้อมทำซักค้าน
โดยมี นายรพี ตัวแทนมูลนิธิ วิน วิน ญาติของผู้เสียหายบางส่วน เดินทางมาศาล เพื่อร่วมฟังกระบวนพิจารณาด้วย ส่วนแอม ไซยาไนด์ ในวันนี้ฐานะโจทก์ ไม่ได้มีการเบิกตัวมาจากทัณฑสถานหญิงกลาง
โดยการไต่สวนมูลฟ้อง เริ่มเวลา 17.00 น. โดย "ทนายพัช" ได้เบิกความ เกี่ยวกับพฤติการณ์ตามฟ้อง ขณะที่ ทนายเดชา ทนายจำเลย ก็พยายามซักค้านในประเด็นต่าง ๆ จนเสร็จสิ้น และ "ทนายพัช" ได้เบิกความ และตอบคำถามค้าน ของทนายจำเลยจนเสร็จสิ้น และได้แถลงต่อศาลขอให้เบิกตัว "แอม ไซยาไนด์" และแม่ของแอม ไซยาไนด์ มาเบิกความ ซึ่งศาลพิจารณาแล้ว ให้นัดไต่สวนมูลฟ้องอีกครั้ง เนื่องโจทก์ประสงค์เบิกความ เพิ่มเติมอีก 2 ปาก ในวันที่ 24 ก.ค. 66 เวลา 13.30 น.
ภายหลังไต่สวนมูลฟ้อง "ทนายพัช" ทนายความโจทก์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนเบิกความเพียง 1 ปาก ซึ่งศาลนัดไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 24 ก.ค. นี้ โดยอนุญาตให้เบิกตัว "แอม ไซยาไนด์" ที่เป็นโจทก์มาเบิกความ นอกจากนี้ยังมีพยานอื่นอีก 1 ปากด้วย ยืนยันว่า การยื่นฟ้องหมิ่นประมาท เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย
ส่วนที่ "ทนายเดชา" ทนายความจำเลย ให้สัมภาษณ์ว่า หากคดียกฟ้อง จะฟ้องกลับนั้น ก็ไม่ได้กังวล เพราะหากศาลเห็นว่า เป็นการใช้สิทธิฟ้องคดีโดยชอบ ก็อาจจะดำเนินการฐานกลั่นแกล้งได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตนกับทนายเดชา ก็เจอหน้าและพูดคุยกันแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ต่างคนต่างก็ทำตามหน้าที่ในฐานะทนายความ
ด้าน นายรพี กล่าวก่อนขึ้นฟัง การพิจารณาคดีว่า มูลเหตุการฟ้องร้อง มาจากการที่ไปออกรายการ "ถกไม่เถียง" เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา และได้กล่าวในรายการว่า แอม โกหกเจ้าหน้าที่จนหัวปั่น และหลอกตำรวจ จึงทำให้ แอม ฟ้องร้องในวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจ เพราะช่วยตามคดีให้กับญาติของผู้ตาย จนตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับ "แอม" ได้ แต่ต้องมาถูกฟ้องเป็นจำเลย รวมทั้งอ้างว่า จะฟ้องตำรวจ ญาติผู้เสียชีวิต และสื่อมวลชนด้วย จึงมองว่า เป็นการฟ้องเพื่อปิดปาก ไม่ให้ออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริง ทั้งที่การทำหน้าที่ และออกมาเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ นั้นเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และก่อนหน้านี้ ตนเคยบอก "แอม" ว่า ให้ยอมรับความจริง จะได้ไม่มีความผิดมากไปกว่านี้
ขณะที่ ทนายเดชา กล่าวว่า วันนี้เตรียมพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในการไต่สวน เป็นบันทึกการจับกุมของตำรวจ และหมายจับ "แอม ไซยาไนด์" จำนวน 15 คดี รวมทั้งคลิปวิดีโอ ที่แอมพูดคุยกับตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ว่าถูกแอมหลอกจนหัวปั่น มายื่นเพื่อพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า นายรพี พูดตามข้อเท็จจริง ไม่ได้พูดหมิ่นประมาท เพราะเป็นการพูดไปตามที่ ตำรวจกองปราบปราม และตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 พูดไว้
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพิจารณาจากข้อความดังกล่าวแล้ว ไม่น่าจะเข้าข่ายหมิ่นประมาท ดังกล่าวหากศาลยกฟ้อง ก็อาจจะดำเนินการฟ้องกลับ ข้อหาฟ้องเท็จ เบิกความเท็จ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงสุดรวมกัน 12 ปี