พบแมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส ตามชายหาดภูเก็ต เตือนพิษถึงตาย
เผยภาพแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส โดยพบตามบริเวณชายหาดจังหวัดภูเก็ตในช่วงมรสุม เผยวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากโดนพิษ
เฟซบุ๊กเพจ "Phuket Lifeguard Service" โพสต์เผยภาพแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส โดยพบตามบริเวณชายหาดจังหวัดภูเก็ตในช่วงมรสุม เผยวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากโดนพิษ
เช้าในช่วงฤดูมรสุม พบแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ แมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส ตัวเล็ก หากโดนพิษของมันให้ใช้น้ำทะเลล้างบริเวณที่โดนพิษและดึงหนวดออกเพื่อบรรเทาอาการปวด แช่บริเวณที่โดนต่อยในน้ำร้อนเป็นเวลา 20 นาที
อย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจไป ภูเก็ตเรามีแต่ตัวแค่นี้ ลูกๆของมันคาดว่าจะตกค้างจากเรือสำราญที่แวะมาเที่ยวภูเก็ตทุกปี มีตลอดในช่วงฤดูมรสุมมิถุนายน - ตุลาคม เราชาวภูเก็ตต้องรู้วิธีรักษาเมื่อโดนพิษของเจ้าแมงกะพรุนไฟนี้ ใช้น้ำทะเลล้างพิษของมัน
แมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส เป็นแมงกะพรุนไฟสายพันธุ์ Physalia มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส จัดเป็นแมงกะพรุนไฟที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก มีลําตัวสีชมพูม่วง น้ำเงิน หรือเขียว ยาวประมาณ 25-30 เซนติเมตร
รูปร่างของร่มคล้ายเรือใบ ลักษณะภายนอกของลําตัวมีปากยื่นยาวออกมาจากลําตัว และมีหนวดออกมาจากขอบร่มเป็นสายยาว โดยปกติจะไม่พบในน่านน้ำไทย โดยจะพบในทะเลเปิดของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ, ทะเลเมดิเตอเรเนียน, มหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย แต่จะอาจจะถูกกระแสน้ำพัดมาเกยตื้นหรือเข้าสู่น่านน้ำไทยได้ในบางฤดูกาล
แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส จัดเป็นแมงกะพรุนชนิดที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก เทียบเท่าแมงกะพรุนกล่องหรือแมงกะพรุนอิรุคันจิ และเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลกด้วย ซึ่งพิษนั้นจะทำลายระบบประสาท ผิวหนัง หัวใจ เมื่อถูกต่อยจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนอย่างมาก ส่วนใหญ่ผู้ที่โดนพิษจะช็อค และหัวใจล้มเหลวได้
พิษของแมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส
- มีพิษที่ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนเป็นอย่างมาก
- บริเวณผิวที่สัมผัสกับแมงกะพรุนจะไหม้เป็นรอยแดง
- พิษของมันยังสามารถทำลายระบบประสาท ผิวหนัง หัวใจ และรุนแรงจนทําให้เสียชีวิตได้
การปฐมพยาบาลเมื่อถูกพิษแมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส
- ใช้วัสดุแข็ง เช่น กระดาษ บัตร ไม้เขี่ยหนวดออกจากบริเวณที่สัมผัส โดยห้ามใช้มือสัมผัสโดยตรง
- ห้ามนวด ถูหรือทายาใดๆบริเวณที่โดนสายแมงกะพรุนถึงแม้ว่าอาจมองไม่เห็นว่ามีหนวดแมงกะพรุนหลงเหลืออยู่แล้ว เนื่องจากยังมีโอกาสที่จะมีถุงพิษเล็กจํานวนมากอยู่บนบริเวณผิวหนังโดยที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งถุงพิษเหล่านี้จะถูกกระตุ้นเมื่อมีแรงกดทับที่ผิวบริเวณนั้น ทําให้เกิดการยิงเข็มพิษเข้าสู่ร่างกาย และทําให้เกิดอาการมากขึ้น
- ราดผ่านด้วยน้ำทะเล เพื่อให้หนวดที่ติดอยู่ออกไปให้มากที่สุด ห้ามใช้น้ำจืด ล้างโดยเด็ดขาด เนื่องจากจะกระตุ้นกระเปาะพิษให้เพิ่มมากขึ้น
- ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้ยาชาชนิดพ่นในการลดอาการปวด เพื่อหลีกเลี่ยงการที่ต้องถูนวดบริเวณที่สัมผัสแมงกะพรุน ในกรณีที่ไม่มียาชาชนิดพ่น ใช้น้ำแข็งประคบเบาๆเพื่อลดอาการปวด
- ถ้ามีอาการรุนแรง เช่น เริ่มรู้สึกหายใจลําบาก หรือเริ่มหมดสติให้รีบนําตัวส่งโรงพยาบาล
cr : กลุ่มงานอาชีวเวชกรรม รพ.ระยอง
เพจ "Phuket Lifeguard Service"