เข่าทรุดได้หมายศาล! แม่ นศ.เภสัช โอดไม่มีจ่าย เจ้าของอาหารเสริมฟ้อง 50 ล้าน
แม่ นศ.เภสัช เข่าทรุดได้รับหมายศาล เจ้าของอาหารเสริมผิวขาวฟ้องเรียกค่าเสียหาย 50 ล้าน เผยจนปัญญาไม่มีเงินจ่าย - ห่วงสภาพจิตใจลูก วอนผู้รู้กฎหมายมาช่วยชี้แนะ
ความคืบหน้ากรณีคุณแม่รายหนึ่งได้ออกมาร้องเรียนสื่อมวลชนว่า ลูกสาวได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อนำเอกสารประกอบการเข้ามอบตัวศึกษาต่อคณะเภสัชศาสตร์ ม.ขอนแก่น ปรากฏว่าพบสาร 'เมทแอมเฟตามีน' ในปัสสาวะ ทั้งที่ไม่เคยเสพยา จึงทำให้สงสัยว่าสาเหตุมาจากที่ลูกทานอาหารเสริมผิวขาวหรือไม่ ต่อมาว่าที่นักศึกษาเภสัชฯได้เข้าตรวจร่างกายซ้ำที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ผลปรากฏไม่พบสารเสพติดในร่างกาย และล่าสุดเจ้าของผลิตภัณฑ์กลูต้าที่ตกเป็นข่าว ประกาศเตรียมฟ้องกลับสองแม่ลูก โดยเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คณบดีเภสัชฯ มข. แจง ยังไม่ตัดสิทธิ์ นร.หญิง กินอาหารเสริมผิวขาว แล้วฉี่ม่วง
- สสจ.บุรีรัมย์ ส่งตรวจละเอียด อาหารเสริมผิวขาว-ปัสสาวะ คาด 1 สัปดาห์รู้ผล
- แม่เครียดลูกกินอาหารเสริมผิวขาว ก่อนตรวจร่างกายเข้าเรียนเภสัช เจอสารยาบ้า
ล่าสุดวันนี้ (10 มิถุนายน 2566) น.ส.นันท์นภัส (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นคุณแม่ของนักศึกษาคนดังกล่าว ได้เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่นำหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์มาติดไว้ที่หน้าบ้าน โดยหมายศาลระบุการฟ้อง น.ส.อามานา (สงวนนามสกุล) ลูกสาวตน เป็นจำเลยที่ 1 และตนเป็นจำเลยที่ 2 พร้อมเรียกค่าสินไหมทดแทนรวม 50 ล้านบาท โดยศาลนัดสืบพยานในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 นี้
'ตนรู้สึกตกใจมากที่ได้รับหมายศาล การเรียกค่าเสียหายถึง 50 ล้านบาทครอบครัวคงไม่มีปัญญาหามาให้ได้ ซึ่งครอบครัวต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพิสูจน์ความจริงที่ลูกสาวตรวจปัสสาวะแล้วพบสารเมทแอมเฟตามีนเท่านั้น เพราะลูกสาวเป็นเด็กเรียน ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อยู่กับครอบครัวตลอดเวลา แม้ไปทำงานพิเศษ ส่วนอาหารเสริมผิวขาวตนกับลูกสาวไม่เคยเอ่ยชื่อหรือบริษัทที่จำหน่ายแต่อย่างใด ที่ต้องบอกไปเพราะหมอจากโรงพยาบาลเป็นคนซักว่ากินอะไรเข้าไป จึงนำมาสู่การเอาตัวอย่างไปให้หมอดู เพราะลูกสาวกินผลิตภัณฑ์กลูต้าตัวนี้เพียงตัวเดียวเท่านั้น'
น.ส.นันท์นภัส กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ครอบครัวรู้สึกเป็นทุกข์เพราะไม่มีปัญญาจะไปต่อสู้กับบริษัทได้ ไม่มีแม้เงินจะจ้างทนายความ ทั้งยังต้องหาเงินส่งลูกสาวเรียนอีกด้วย ตอนนี้เป็นห่วงแต่ความรู้สึกของลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เกรงว่าจะกระทบต่อการเรียนเนื่องจากกลายเป็นจำเลยที่ 1 ไปแล้ว