ชาวบ้านบางคลานยื่นหนังสือ เร่งสอบเจ้าคณะ จ.พิจิตร ปมผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง

ชาวบ้านบางคลานยื่นหนังสือ เร่งสอบเจ้าคณะ จ.พิจิตร ปมผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง

ชาวบางคลาน จ.พิจิตร ยื่นหนังสือเร่ง "เจ้าคณะภาค4" สอบสวนเอาผิดเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร กล่าวหาผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่บริเวณวัดคูยาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ชาวบ้าน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ประมาณสองร้อยคน มี นางสาวสุภา อยู่ยืด อายุ 52 ปี ประธานองค์กรชุมชนรักษ์วัดหิรัญยารามหรือวัดบางคลาน เป็นแกนนำ

ได้มายื่นหนังสือขอความเมตตาและติดตามขอทราบความคืบหน้ากับ พระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะภาค 4  กรณีได้ยื่นหนังสือและหลักฐานขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมที่ขาดความเป็นพระแล้ว ตั้งแต่ปี 2551 ของ พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะ จ.พิจิตร และเจ้าอาวาสพระอารามหลวงแห่งหนึ่ง

กล่าวหาว่าเสพเมุนเป็นอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุ ตั้งแต่ปี 2551  โดยมีบุตร  2  คนกับสีกา 2 คนในปี 2551 และปี 2562 พร้อมกับทวงถามความคืบหน้ากรณีเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร  ให้ดำเนินการจัดการสรีระพระครูวิสิฐสีลาภรณ์  อดีตเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม และมีการแต่งตั้งพระครูพิสุทธิวรากร ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม เป็นเจ้าอาวาส  ซึ่งประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ยอมรับการบริหารงานและการทำงานของพระครูพิสุทธิวรากร เพราะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านเป็นร้อยคดี  

โดยพยายามให้ชาวบ้านติดคุก     โดยเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร อ้างเหตุผลแจ้งเจ้าคณะอำเภอโพทะเลว่าเพื่อสนองนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และมีคลิปเสียงพระผู้ใหญ่ของจังหวัดโทรศัพท์ข่มขู่ให้พระครูวิรุฬธรรมาภิรัติ เจ้าคณะอำเภอโพทะเล     ให้ดำเนินการแต่งตั้งพระครูพิสุทธิวรากร  เป็นเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม โดยปฏิบัติตามหนังสือจังหวัดพิจิตร มีเจ้าคณะตำบลท่านั่ง - บางคลาน มาคอยกำกับ กดดันเจ้าคณะอำเภอโพทะเล     ลงนามในหนังสือรายงานการประชุม 

 

ทั้งๆที่ไม่ได้ประชุมจริง เสนอแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดบางคลาน  และมีการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสเมื่อวันที่  10  มีนาคม 2566   โดยชาวบ้านในตำบลบางคลานไม่มีใครทราบเรื่องและชาวบ้านในตำบลบางคลานไม่ยอมรับการแต่งตั้งพระครูพิสุทธิวรากร เป็นเจ้าอาวาส ขอให้เปลี่ยนตัวเจ้าอาวาส  

พร้อมกันนี้ทางองค์กรได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพิจิตร เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับ นายวิรัตน์ วะสะศิริ หรือ พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะ จ.พิจิตร โดยกล่าวหาว่าแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 208 เพื่อให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

 

 

 

 

 นางสาวสุภา อยู่ยืด ประธานองค์กรชุมชนรักษ์วัดหิรัญยารามหรือวัดบางคลานเปิดเผยว่า กลุ่มชาวบ้านมาขอความเมตตาและทวงถามขอทราบความคืบหน้ากับท่านเจ้าคณะภาค 4 ที่เป็นพระผู้ใหญ่และเป็นผู้ปกครองสงฆ์ในภาค 4 รับผิดชอบเป็นประธานการตรวจสอบและสอบสวนเรื่องที่ทางองค์กรฯและชาว ต.บางคลาน ได้ร้องเรียนพฤติกรรมของเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรที่ขาดจากความเป็นพระมาเพราะมีหลักฐานทนโท่มามีลูก 2 คนมีเมีย 2 คน ขาดความเป็นพระมาตั้งแต่ปี 2551 ทำให้ศาสนาพุทธมัวหมอง โดยมีการร้องเรียนและเป็นข่าวโด่งดังคึกโครมมาหลายเดือนแล้ว แต่ทางหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องและทางฝ่ายสงฆ์ ยังคงนิ่งเงียบเหมือนช่วยเหลือกัน เพราะมีข่าวว่าทางฝ่ายผู้ถูกร้องเรียนใช้เงินและทรัพย์สินจำนวนมากไปวิ่งเต้นผู้มีอำนาจในคดีที่ถูกสอบสวนให้พ้นผิด ทำให้ชาว ต.บางคลาน หวั่นใจว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องที่ร้องเรียนอลัชชีทำลายวงการสงฆ์ให้มัวหมอง พัวพันในการตั้งเจ้าอาวาสวัดบางคลานที่เป็นพวกพ้องเป็นพระจากต่างถิ่นซึ่งชาวบ้านประชาคมลงมติไล่ออกพ้นจากวัดบางคลานไปนานแล้ว และได้มีการลงประชามติขอให้ตั้งรักษาการเจ้าอาวาสองค์ใหม่ที่ไม่ใช่พระครูพิสุทธิวรากร

ด้านพระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะภาค 4 ได้เมตตาออกรับหนังสือทวงถามความคืบหน้าจากชาวบ้าน ต.บางคลาน อ.โพทะเล พร้อมทั้งแจ้งกับชาวบ้านว่า ทางเจ้าคณะภาค 4 หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนความประพฤติของเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรแล้วไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเป็นคณะสงฆ์ระดับรองเจ้าคณะภาคร่วมเป็นกรรมการสอบสวน แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนผู้ถูกร้องเรียนเป็นพระสงฆ์ระดับเจ้าคณะจังหวัดต้องใช้เวลาในการพิจารณา โดยจะให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย แต่ไม่ข้างคนผิดแน่นอน

ส่วนกรณีของวัดบางคลานจะเร่งพิจารณาหาคณะกรรมการจากส่วนกลางไปตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินของวัดโดยเจ้าคณะภาค 4 รับปากชาวบ้าน ต.บางคลานว่าอาจจะเป็นประธานในการตรวจสอบทรัพย์สินและความถูกต้องต่างๆของวัดบางคลานด้วยตัวเอง