ชาวสวนเศร้า ลมกระโชกแรง ต้นทุเรียน-เงาะล้ม เสียหายยับ

ชาวสวนเศร้า ลมกระโชกแรง ต้นทุเรียน-เงาะล้ม เสียหายยับ

สุราษฎร์ธานีเกิดเหตุลมพัดแรงจัด ชาวสวนทุเรียนบ้านนาสารระทมหนัก พิษลมกระโชก ต้นทุเรียน-เงาะโค่นล้ม ที่กำลังให้ผลผลิตรอการตัดพังยับ ได้รับความเสียหาย

เหตุการณ์ลมกระโชก ต้นทุเรียน-เงาะล้ม เสียหายยับ ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. -14.00 น.วานนี้ (12 มิ.ย. 2566 ) เกิดพายุลมกระโชกแรง เป็นวงกว้างในพื้นที่ ต.ลำพูน และ ต.เมืองทวด อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้เกิดความเสียหายกับเจ้าของสวนผลไม้โดยเฉพาะสวนทุเรียน และสวนเงาะ โดยเฉพาะสวนทุเรียนที่กำลังให้ผลผลิตผลิตเต็มต้นรอเก็บเกี่ยวผลผลิตหักโค่นลงมา ชนิดถอนรากถอนโคนเป็นบริเวณกว้าง 

นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ นายกัมปนาถ กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอบ้านนาสาร จัดเจ้าหน้าลงสำรวจพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนันผู้ใหญ่บ้าน พบว่ามีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน มีต้นทุเรียนโค่นล้มได้รับความเสียหายส่วนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากพายุลมแรงทำให้ผลทุเรียนที่กำลังจะออกสู่ตลาดหล่นทั้งต้นเป็นจำนวนมาก ในพื้นที่ ต.ลำพูน ซึ่งทางอำเภอได้ประสานกำนันผู้ใหญ่บ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือ

นายสิทธา ทองจันทร์ เกษตรกรชาวสวนทุเรียนบ้านหมาก หมู่ 4 ต.ลำพูน อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ต้นทุเรียนขนาดใหญ่อายุประมาณ 40 ปี พันธุ์หมอนทอง จำนวน 2 ต้นในสวน ได้รับแรงลมจนถอนรากถอนโคน แบบโดมีโน่ ทำให้ผลทุเรียนทั้งต้นเสียหาย โดยก่อนหน้านี้มีแม่ค้าทุเรียนได้เข้ามาเจรจาเพื่อรับซื้อ ซึ่งทั้งสวนมีอยู่ประมาณ 1,000 ผลในราคา กก.ละ 140 บาท และกำหนดตัดในวันที่ 16 มิ.ย นี้ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ต้องสูญเสียทุเรียนไปประมาณ 200 ผล หรือ ประมาณ 600 กก. 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในพื้นที่ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการปลูกผลไม้ขึ้นชื่อคือ ทุเรียนพันธุ์หมอนทองและเงาะสายพันธุ์โรงเรียน ต้องประสบกับปัญหาลมกระโชกแรง ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งกำชับให้นายอำเภอท้องที่ และ ปกครองท้องถิ่น เข้าสำรวจและให้การช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ประกาศเป็นเขต ภัยพิบัติวาตภัย.