ทวงสัญญา 'บิ๊กโจ๊ก' ม็อบเรือประมงเล็ก ปิดปากคลองปากบารา เตรียมยกระดับชุมนุม
ม็อบเรือประมงเล็ก ปิดปากคลองปากบารา ขู่เตรียมยกระดับการชุมนุม หากไม่ได้คำตอบปม จนท.ไม่ทำตาม MOU พื้นที่ประมง ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว "เกาะหลีเป๊ะ" เตรียมแผนสำรองไว้รองรับ
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 ที่ จ.สตูล ความคืบหน้ากรณี กลุ่มเรือประมงขนาดเล็ก นำเรือมาจอดปิดปากร่องน้ำ ในคลองปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ทวงสัญญา "บิ๊กโจ๊ก" กรณี "MOU" พื้นที่การทำประมงในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา หลังเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้จับกุมเรือประมงปลากะตัก 3 ลำที่บริเวณ ห่างจากชายฝั่งเกาะเละละ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล ประมาณ 969 เมตร
ล่าสุด กลุ่มเรือประมงอวนครอบปลากะตัก ที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) จำนวน 20 ลำ ยังคงนำเรือจอด ปากร่องน้ำในคลองปากบารา ต่อเป็นวันที่ 2 โดยอ้างว่า เจ้าหน้าที่ไม่ทำตาม MOU ที่ทำร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น นายอำเภอ , ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล , หัวหน้าอุทยานเกาะตะรุเตา
ในการลดหย่อนพื้นที่ ออกทำการประมงพื้นบ้าน ที่มีขนาดไม่เกิน 10 ตันกรอส จนกว่าจะหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยพร้อมจะยกระดับการชุมชนประท้วง หากไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ มีการนำเต็นท์มากางปักหลักเพื่อเรียกร้อง และนำเรือมาจอดปากคลอง ร่องน้ำปากบารา
กลุ่มผู้ชุมนุม อ้างถึง MOU เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมาที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เชิญตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน เข้าร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหา พื้นที่ทำประมงในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และมีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด รับเรื่องความเดือดร้อน จากการประกาศเขตไมล์ทะเลไว้พิจารณา และเร่งรัดการประชุม กับคณะกรรมการประมงจังหวัดว่า จะกำหนดเขตใหม่ทางทะเลเพียงใด มีร่องน้ำใดที่ชาวบ้าน สามารถประกอบอาชีพต่อไปได้
ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยววันนี้ เรือสปีดโบ๊ตขนส่งผู้โดยสาร มุ่งหน้าไป "เกาะหลีเป๊ะ" ยังสามารถแล่นผ่านปากคลองร่องน้ำปากบาราได้ปกติ และเตรียมแผนสำรองพร้อม หากมีการปิดร่องน้ำไว้แล้วเช่นกัน
นายนครินทร์ ชูสกุล ผู้ดูแลเรือบริษัท อาคีลา สปีดโบ๊ต กล่าวว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์หน้างานทุกวัน และเตรียมแผนไว้รองรับ หากมีการปิดร่องน้ำจากผู้ชุมนุมประท้วงจริง ซึ่งยอมรับว่า ก็เห็นใจ และเชื่อว่า การชุมนุมประท้วงครั้งนี้ จะไม่หนักเหมือนครั้งเมื่อเดือน มี.ค. เพราะได้เตรียมแผนสำรอง และการท่องเที่ยวครั้งนี้ ยังไม่ได้รับผลกระทบ
ด้านตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มาร่วมกันประเมินเหตุการณ์ พร้อมมั่นใจว่า นักท่องเที่ยวจะไม่ได้รับผลกระทบ จากการปิดร่องน้ำเดินเรือในครั้งนี้ อย่างแน่นอน โดย ด.ต.พชร บัวศรี ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจท่องเที่ยว 1 กองกำกับการ 3 รับผิดชอบสงขลาและสตูล เปิดเผยว่า ได้ร่วมประเมินสถานการณ์ร่วมกับผู้ประกอบการ โดยเตรียมแผนสำรองไว้ หากมีการปิดปากร่องน้ำเดินเรือจริง
โดยจะใช้หาดหลังมัสยิดปากบารา และที่ แหลมเต๊ะปัน เป็นจุดลงเรือของนักท่องเที่ยว หากมีการยกระดับการชุมนุมขึ้น โดยขณะนี้ยังไม่มั่นใจว่า จะยืดเยื้อหรือยาวนานแค่ไหน การนำเรือมาปิดร่องน้ำประท้วงในครั้งนี้ ได้มี 2 ข้อเรียกร้อง คือ 1.สอบถามข้อมูล MOU ที่ได้จัดทำขึ้น เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 66 ยังมีผลอยู่หรือไม่
และ 2.กรณีศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลกระบี่ กองตรวจการประมง กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ชุดใบไม้เขียว) ได้ดำเนินการจับกุมเรือประมงชาวบ้าน เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมา ชุดจับกุมแจ้งว่า ไม่ทราบ MOU ที่ได้จัดทำขึ้น แต่เมื่อทราบ MOU ที่ได้ตกลงกันไว้ จะถือปฏิบัติตาม MOU นั้นหรือไม่