อัปเดตเค้นสอบ สาว26 อ้างปืนลั่น ใส่แฟนหนุ่มดับคาคอนโค บางกรวย นนทบุรี
อัปเดต ปมยิงตายคาคอนโด นนทบุรี ตำรวจบางกรวย เค้นสอบ สาววัย 26 อ้างทำปืนลั่น ใส่แฟนหนุ่ม จนเสียชีวิต พบพิรุธให้การวกวน ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณี นายศุภสิน ศรีสุข อายุ 29 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน เสียชีวิต อยู่ภายในห้องพักที่คอนโดแห่งหนึ่ง ใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดย น.ส.เจนจิรา อายุ 26 ปี แฟนสาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุให้การอ้างว่า มีปากเสียงกัน กับแฟนหนุ่มผู้ตาย
ก่อนจะถูกผู้ตายนำอาวุธปืนพกออกมาข่มขู่ จนเกิดการต่อสู้ยื้อแย่งกัน จนเป็นเหตุทำให้ปืนลั่นใส่เบ้าตาข้างซ้ายของแฟนหนุ่มจนล้มลง แรงกระสุนทะลุด้านหลังศีรษะไปถูกกระจกอาคารห้องพักแตกเป็นรู โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. 66
ล่าสุดวันนี้ ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงควบคุมตัว น.ส.เจนจิรา แฟนสาวของผู้เสียชีวิต ที่อ้างว่าเป็นอุบัติเหตุปืนลั่น มาทำการสอบปากคำอย่างละเอียดตลอดทั้งคืน โดย น.ส.เจนจิรา เขื่อนแก้ว อายุ 26 ปี แฟนสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังตนกับแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหากันได้ไม่นาน เกิดทะเลาะมีปากเสียงกันเรื่องที่ภรรยาเก่า มักโทรมาหาแฟนหนุ่มเป็นประจำทุกวัน จนทำให้ทนไม่ไหว จึงขอบอกเลิกกับแฟนหนุ่ม
ประกอบกับเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังตนเดินทางไปเยี่ยมบ้านแฟนหนุ่มที่จังหวัดกาญจนบุรี แฟนหนุ่มได้แอบนำอาวุธปืน และสนับมือติดรถกลับมาด้วย เพื่อนำมาใช้ข่มขู่ไม่ให้ตนบอกเลิก สร้างความหวาดกลัว และหวาดระแวงมห้กับตนเป็นอย่างมาก
จนกระทั่งตอนเกิดเหตุ แฟนหนุ่มนำอาวุธปืนออกมานั่งขัดและหันปากกระบอกปืนมาทางตนด้วยความตกใจกลัว ตนจึงเข้าไปแย่งปืนจากมือแฟนหนุ่มจนกระทั่งเกิดเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงพบว่า กระสุนปืนพลาดไปถูกหัวตาข้างซ้าย ของแฟนหนุ่ม ทำให้มีเลือดให้ออกมาจำนวนมาก ด้วยความตกใจ จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือแฟนหนุ่มในทันที
โดยนำอาวุธปืนไปวางไว้ที่บนตักของแฟนหนุ่ม และช่วยห้ามเลือด แต่เลือดไหลออกมาเยอะมาก ตนจึงวิ่งออกไปร้องขอความช่วยเหลือจากนอกห้อง ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่ได้จัดฉากนำอาวุธปืนไปใส่มือแฟนหนุ่ม แต่เพราะรีบเข้าไปช่วยเหลือจึงเผลอวางปืนไว้
น.ส.เจนจิรา กล่าวอีกว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ตนก็รู้สึกเสียใจ ที่ต้องสูญเสียแฟนหนุ่มไปเช่นกัน ตนไม่ได้มีเจตนาจะทำร้าย อยากจะขอโทษกับทางครอบครัวของแฟนหนุ่มด้วยที่มาเกิดเรื่องแบบนี้
ตนเครียดมาก เพราะภาพของแฟนหนุ่มกับเลือดที่ไหลออกมา ยังคงติดตาอยู่ ทำให้ตนนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
ทางด้าน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ น.ส.เจนจิรา ตลอดทั้งคืน ให้การรับสารภาพว่า หลังเกิดการแย่งปืนกับแฟนหนุ่มมาได้แล้ว น.ส.เจนจิราได้เดินถือปืนที่แย่งมาได้ ออกมาอยู่อีกห้องหนึ่ง ส่วนผู้ตายยืนสูบบุหรี่ที่อีกห้องกระจกริมระเบียง น.ส.เจนจิรา ซึ่งไม่รู้ว่า อาวุธปืนขึ้นลำอยู่ จึงได้หันปากกระบอกปืนไปทางผู้ตายที่อยู่อีกห้องหนึ่ง ทำให้เกิดปืนลั่นทะลุประตูกระจกห้อง ไปถูกผู้ตายจนล้มลง
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับเตรียมควบคุมตัว น.ส.เจนจิรา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การภาคเสธก็ตาม เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้ ทุกอย่างไปตามพยานหลักฐานที่มี ซึ่งหลังจากควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว จะนำตัวผู้ต้องหารายนี้ส่งฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 13 มิ.ย. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว น.ส.เจนจิรา เขื่อนแก้ว อายุ 26 ปี แฟนสาว ของผู้เสียชีวิต มาสอบปากคำต่อที่ สภ.บางกรวย เนื่องจากสภาพศพผู้เสียชีวิตมีพิรุธหลายอย่าง และ น.ส.เจนจิรา ให้การไม่สอดคล้องกัน
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เชิญตัวครอบครัวผู้เสียชีวิตคือ นายศุภฤกษ์ อายุ 29 ปี พี่ชายฝาแฝด นายชัยวัฒน์ ศรีสุข 54 ปี ผู้เป็นพ่อ และนางกมลรัตน์ ศรีสุข 52 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายมาสอบปากคำในฐานะญาติผู้เสียชีวิต
นางกมลรัตน์ ศรีสุข 52 ปี แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนมีลูกสองคนเป็นฝาแฝดกัน ถ้าลูกมีปัญหา เขาก็จะมาปรึกษากับตนตลอด โดยเฉพาะเวลาลูกชายทะเลาะกับแฟนสาวของเขา เขาก็จะมาขอให้ตนช่วยส่งไลน์ข้อความไปง้อแฟนสาวแทน จนกับมาคืนดีกัน ก่อนจะพากันไปเที่ยวที่บ้านที่เมืองกาณจน์แล้วก็กลับมาอยู่ด้วยกันที่ห้องเกิดเหตุนนทบุรี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
นายศุภฤกษ์ ศรีสุข อายุ 29 ปี พี่ชายฝาแฝดผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนติดใจในการเสียชีวิตของน้องชาย ว่าคนตาย จะสามารถใช้ปืนยิงเข้าที่หน้าตัวเองได้อย่างไร ยิ่งมาบอกว่า มีการแย่งปืนกัน ตนก็ยิ่งติดใจในตรงจุดนี้ ว่าผู้หญิงจะมีแรงเยอะกว่าผู้ชาย จนสามารถหันปืนไปลั่นใส่ผู้ชายได้ยังไง ถ้าทำได้จริง ตนจะกราบเท้าเขาเลย
อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามเนื้อผ้าเพราะบ้านเมืองยังมีกฏหมายอยู่ รู้ว่าน้องชายมีปืนพกอยู่ แต่ก็เป็นปืนที่มีทะเบียน นิสัยของน้องชายตนเป็นคนอารมณ์เย็น ไม่เหมือนกับตน ตนแปลกใจมากที่มาเกิดเหตุ เพราะเพิ่งคุยโทรศัพท์ และวางสายกันไปได้เพียงประมาณ 5 นาที จากนั้น ฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นแฟนเขา ก็โทรมาบอกกับคนที่บ้านว่า เกิดการแย่งปืนกัน แล้วปืนลั่นใส่น้องชายตนจนเสียชีวิต
นอกจากนี้ท่านั่งเสียชีวิตของน้องชาย ที่อยู่ท่านั่งถือปืน ก็ผิดปกติ เพราะตามหลัก ปืนจะต้องหลุดจากมือไม่ใช่นั่งกำมืออยู่แบบนั้น และต้องเชื่อว่า ถ้าเป็นการแย่งปืนกันจริง คนที่จะตายต้องเป็นฝ่ายผู้หญิงไม่ใช่น้องชายตน
ด้านนางดาว อายุ 47 ปี แม่ของ น.ส.เจนจิรา เขื่อนแก้ว ที่เดินทางมาที่โรงพัก กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าฝ่ายชายแอบเอาปืนมาตั้งแต่เมื่อไร ซึ่งถ้าเขาไม่เอาปืนมาก็คงไม่เกิดปัญหา ปกติเขาทะเลาะกันก็ไม่ได้รุนแรงอะไรกัน หลังเกิดเหตุแล้ว ตนได้รับโทรศัพท์จากลูกสาว บอกว่าเขากับผู้ตายทะเลาะกัน หลังจากนั้นลูกสาวตน ก็เดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วออกมา ก็ไม่รู้ว่าฝ่ายผู้ชายไปหยิบปืนมาตอนไหน จากนั้นผู้ชายก็ทำท่าจะยกปืนขึ้นมา เหมือนจะยิงใส่ ลูกสาวตนจึงเข้าไปแย่งปืน จนทำให้ปืนเกิดลั่นไปถูกฝ่ายชาย ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าแย่งกันแบบไหน
ส่วนสาเหตุที่เขาทะเลาะกันก็เป็นเพราะอดีตแฟนเก่าของผู้ชาย โทรมาหาติดต่อหาฝ่ายชายเป็นประจำ จนทำให้เกิดมีปากเสียงกัน โดยที่ลูกสาวตนนั้น มีเพียงฝ่ายชายเป็นแฟนคนเดียว ก่อนเกิดเหตุอดีตแฟนเก่าของผู้ชาย ก็โทรมาอีกจนเกิดมีปากเสียงกัน ตนเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุมากกว่า เพราะลูกสาวตนไม่เคยโกหก และไม่เคยจับปืนมาก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเบื้องต้นหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว ซึ่งทุกคนยังคงติดใจกับสาเหตุการเสียชีวิต จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุโดยละเอียด ประกอบการสอบปากคำ น.ส.เจนจินา แฟนสาวผู้เสียชีวิต พบว่า ให้การมีพิรุธ วกวน ไม่สอดคล้องเหตุการณ์ และสภาพศพของผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยังไม่ปักใจเชื่อตามคำให้การ ว่าเป็นอุบัติเหตุปืนลั่น ดังนั้น จึงเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต