'รองผบก.ไซเบอร์' เปิดหลักฐาน! ปมแก๊ง 'ผู้การชลบุรี' รีดงินเว็บพนัน 140 ล้าน
เกาะติดคดีดัง 'รองผู้การไซเบอร์' เปิดหลักฐาน! ถูกร้องขอกำลัง ปมแก๊ง 'ผู้การชลบุรี' รีดงินเสี่ยเว็บพนัน 140 ล้าน
กรณี พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ผู้การชลบุรี) ผู้ต้องหาในคดีรีดทรัพย์ผู้ต้องหา 140 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยังคงเป็นที่สงสัยในคดีตำรวจรีดงินเว็บพนัน ทำไมจึงปรากฎรายชื่อตำรวจไซเบอร์เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ อ่อนตา รองผบก.สอท. 2ได้เปิดเผยอีกครั้งว่า ในการทำงานเข้าตรวจค้นบ้านนายธนินวัฒน์ หรือเป้ ย่านคันนายาว เนื่องจากทางหน่วยงานของอดีตผู้การชลบุรีได้มีการทำหนังสือขอความร่วมมือ ลงวันที่ 22 พ.ค. มายังตำรวจไซเบอร์ ให้ช่วยสนับสนุนกำลัง ซึ่งตามปกติคดีที่เกี่ยวกับพนันออนไลน์ จะต้องมีการเก็บหลักฐานทางอิเลคทรอนิคส์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
จากนั้นได้เข้าไปตรวจค้นในวันที่ 23 พ.ค. ตามคำร้องขอ โดยทางตำรวจไซเบอร์ ได้เข้าไปภายหลัง ชุดหน่วยงานหลักที่จะต้องเข้าไปตามขั้นตอน อ่านหมายค้น เคลียร์พื้นที่ก่อน ทางตำรวจไซเบอร์ไม่ได้เป็นผู้นำเข้าไปก่อน เพราะไม่ใช่หน่วยงานหลัก
“หลังจากทำการตรวจพิสูจน์เก็บพยานหลักฐานต่าง ๆภายในบ้านหลังดังกล่าว ได้มีการส่งมอบพยานหลักฐานให้กับทางตำรวจชลบุรี เมื่อเสร็จภารกิจแล้ว ทางตำรวจไซเบอร์ก็กลับทันที ไม่ได้ตามผู้ต้องหาไปที่สน.คันนายาว ตามที่ชุดจับกุมนำตัวไป เพราะการจับผู้ต้องหาจะต้องแจ้งกับทางท้องที่จับกุม”
พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ บอกอีกว่า เมื่อวานนี้ตนได้เข้าไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อพิสูจน์ตัวเอง พร้อมกับเข้าไปชี้แจงข้อหาที่ถูกแจ้ง ทั้งในเรื่องกักขังหน่วงเหนี่ยว และตบทรัพย์ ซึ่งในการทำงานของตำรวจไซเบอร์ ได้มีการบันทึกวิดิโอ ตามพ.ร.บ.อุ้มหายฯ ไว้ทุกขั้นตอนการทำงาน รวมไปถึงขั้นตอนการตรวจยึดทรัพย์สิน เราให้ทางญาติ และผู้ต้องหาได้ตรวจสอบความถูกต้องด้วย ว่ามีการนับถูกต้องหรือไม่ ทุกอย่างมีหลักฐานในทุกขั้นตอน
“ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าตำรวจไซเบอร์มีการกักขังหน่วงเหนี่ยว ”นายหรั่ง“ ซึ่งผมยังไม่รู้ว่านายหรั่งคือใคร ถ้าจะมีเกี่ยวข้องที่ในเรื่องการควบคุมตัว นั้นจะมีเพียง ”นายเป้“ เท่านั้น คนอื่นไม่มีแน่นอน”
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นสังคมเชื่อไปแล้ว ตร.ไซเบอร์เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยว่า ตนไม่ทราบ เพราะการทำงานทำตามที่ร้องขอมา ซึ่งเรื่องนี้ถ้าตนจะเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ไม่จำเป็นจะต้องมีการร้องขอทางผู้บังคับบัญชา ตนแอบไปทำจะง่ายกว่าหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่แน่ใจว่าจุดประสงค์คืออะไร