'บอสตาล' ปัดทุกข้อหา ทำเว็บพนันก่อนซื้อสโมสรฟุตบอล ฟอกเงินโยงสารวัตรซัว
อัปเดตคดีฉาว 'บอสตาล' ปัดทุกข้อหา ทำเว็บพนันก่อนซื้อสโมสรฟุตบอล ฟอกเงินโยงสารวัตรซัว ศาลออกหมายจับ ชี้เส้นทางการเงิน พบการเปิดให้เล่นการพนันมาตั้งแต่ก่อนปี 2560 มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก
ภายหลังสอบปากคำ “บอสตาล” เจ้าตัวให้การปฎิเสธขอส่งเอกสารชี้แจงภายหลัง เตรียมส่งตัวฝากขัง ย้ำมีหลักฐานเอาผิด พบเปิดเว็บพนันมานาน ก่อนจะซื้อสโมสรฟุตบอล เชื่อว่านำเงินมาฟอก แม้จะยังไม่พบว่ามีใครที่ใหญ่กว่า แต่ถ้าเชื่อมโยงใครดำเนินคดีแน่นอน ส่วนที่ผู้ต้องหารู้จักคนเยอะ เป็นเรื่องส่วนตัว ถ้าไม่มีเอี่ยวกระทำผิด
ล่าสุด พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ฐานะหัวหน้าชุดปฎิบัติการ เปิดเผยภายหลังการสอบปากคำ นายพงษ์ศิริ หรือ บอสตาล ผู้ต้องหาคดีเปิดให้เล่นพนันออนไลน์ และความผิดตามกฎหมายฟอกเงินว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาและจะส่งเอกสารชี้แจงภายหลัง
ซึ่งหากพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ก็จะส่งตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก เนื่องจากครบกำหนดการควบคุมตัว ขณะที่นายพัสกร ผู้ต้องหาอีก 1 ราย พนักงานสอบสวนยังไม่ได้ดำเนินการสอบปากคำ ส่วนนายดนุพล ผู้ต้องหาอีก1ราย ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวย้ำว่าจากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ มีพยานหลักฐานชัดเจนและเพียงพอเอาผิด ตามข้อหาที่ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ โดยเฉพาะเส้นทางการเงิน ที่พบว่ามีการเปิดให้เล่นการพนันมาตั้งแต่ก่อนปี 2560 มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ก่อนที่จะมีการซื้อสโมสรฟุตบอลและเปิดบริษัททำธุรกิจอีก 3-4 บริษัท
ซึ่งที่น่าเชื่อว่าเปิดธุรกิจบังหน้า และใช้เพื่อทำการฟอกเงินการกระทำผิด โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม รวมถึงได้มีการประสานกับทาง ปปง.เข้าตรวจสอบทรัพย์สินของ บอสตาล ภายในวันนี้
ทั้งนี้ จากการสืบสวนยังไม่พบว่า มีตัวการใหญ่กว่า บอสตาล ส่วนจะมีใครอยู่เบื้องหลัง หรือเกี่ยวข้องเพิ่มเติม ยืนยันหากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึง ก็จะต้องถูกดำเนินคดีแน่นอน แต่เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ เกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์
ขณะเดียวกันปฎิเสธไม่ได้ว่า บอสตาล ที่ทำธุรกิจมานาน และเป็นประธานสโมสรฟุตบอล ย่อมรู้จักหรือมีสายสัมพันธ์กับคนหลายวงการ แต่ก็เป็นเรื่องส่วนตัว หากไม่พบว่ามีส่วนในการกระทำผิดร่วมกัน ยอมรับว่าเครือข่ายเว็บพนันของบอสตาล เป็นเครือข่ายใหญ่ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับสารวัตรซัวหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน
จ่อยึดทรัพย์ “บอสตาล” ฟอกเงินเว็บพนัน รอสอบโยงสารวัตรซัว
ผบช.กมค.เล็งสอบหาที่มาของเงินทำธุรกิจ หลังพบว่าแอบเปิดเว็บพนันมาตั้งแต่ปี 60 เตรียมประสาน ปปง. อายัดทรัพย์สิน ส่วนสโมสรฟุตบอล ถ้าใช้เงินเว็บพนันซื้อก็ต้องยึด ยันไม่กระทบทีมและการแข่งขัน และที่ควบคุมตัวมายังสน.มักกะสัน เพราะเริ่มต้นคดีที่นี่ จะเชื่อมโยงเครือข่ายพนันอื่น รวมถึงสารวัตรซัวหรือไม่ ขอสืบสวนก่อน
21 มิถุนายน 2566 ที่สน.มักกะสัน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี เปิดเผยร่วมก่อนสอบปากคำ นายพงษ์ศิริ หรือ บอสตาล ประธานสโมสรฟุตบอลลำพูนวอริเออร์ ผู้ต้องหาเป็นเจ้าของเปิดให้เล่นพนันออนไลน์และฟอกเงิน หลังถูกจับกุมตัวได้ในพื้นที่จังหวัดลำพูนเมื่อวานที่ผ่านมา
โดยระบุว่าการสอบปากคำวันนี้ จะสอบเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ตั้งแต่การเริ่มดำเนินการธุรกิจนี้ และอาชีพที่มาที่ไปการทำธุรกิจ และแหล่งที่มาของรายได้ ว่ามีรายได้ถูกกฎหมายหรือไม่ เบื้องต้นพบว่ามีการเปิดให้เล่นพนัน มาเป็นระยะเวลานาน โดยตำรวจ ปอท.เริ่มสืบสวนมาตั้งแต่ปี 2560 จากนั้นปี 2563-2564 ทาง ปอท.ได้ส่งรายงานการสืบสวนมายังตำรวจ PCT และได้รับเรื่องมาดำเนินการต่อ จนกระทั่งสามารถดำเนินการจับกุมได้
อย่างไรก็ตาม ต้องดูว่าผู้ต้องหาจะรับสารภาพหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ จนขออนุมัติศาลออกหมายจับบอสตาลกับพวก 3 ราย โดยจับกุมบอสตาลได้ที่จังหวัดพะเยา และนายภาสกร ลูกน้องคนทำงานอีกรายที่เชียงใหม่ ส่วนอีกรายคือนายดนุพล อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว ยังไม่แน่ชัดว่าหลบหนีไปต่างประเทศหรือไม่ หลังจากที่เมื่อวานทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่บ้านพักภรรยา ย่านนนทบุรี แล้วยังไม่พบตัว
หลังจากนี้จะประสานและแจ้งไปยัง ปปง. เพื่ออายัดทรัพย์สินทั้งหมด ที่ได้มาจากการทำเว็บพนันออนไลน์ตามกฎหมายฟอกเงิน รวมถึงธุรกิจสโมสรฟุตบอล หากพบว่าเกี่ยวข้องกับเงินที่ได้จากการพนัน นำไปซื้อก็จะต้องดำเนินการอายัดทั้งหมด แต่กิจการของสโมสรยังดำเนินการต่อไปได้ รวมถึงการแข่งขันด้วย ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด
ส่วนที่ต้องควบคุมตัวมาสอบที่ สน.มักกะสัน เนื่องจากเป็นพื้นที่แรกที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการสืบสวนหาข้อมูลทางเทคนิคและดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ ในท้องที่ สน.มักกะสัน ซึ่งในเรื่องการพนันออนไลน์ปัจจุปัน พรก.การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถดำเนินการได้ทุกท้องที่
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการเชื่อมโยงเครือข่ายของบอสตาล ว่าจะเกี่ยวข้องหรือโยงใยกับเครือข่ายสารวัตรซัวและเครือข่ายเว็บพนันอื่นหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการสืบสวน เนื่องจากเว็บพนันออนไลน์มีการใช้ชื่อหลายชื่อ หรือมีหน้ากาก แต่ช่องทางการเข้าถึง ไม่มีไม่กี่ช่องทางที่เข้าถึงได้ ส่วนตัวเว็บพนัน ปัจจุบันพบว่ายังเข้าได้อยู่ เนื่องจากอาจจะมีการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนช่องทางการเข้าถึง แต่ตัวเว็บพนันยังคงอยู่เช่นเดิม
สำหรับน้องชายของบอสตาล จะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนต่อไป โดยทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งให้ดำเนินการเด็ดขาด หากพยานหลักฐานถึงก็จะต้องดำเนินคดีทุกราย