หนีออกบ้าน! ขน 'ทองคำ' กงสีมูลค่า 30 ล้าน แจ้ง ตร. สกัดกั้นข้ามจังหวัด
ปัญหาในครอบครัว น้องหนีออกบ้าน! ขน 'ทองคำ' กงสีมูลค่า 30 ล้าน พี่สาวแจ้งตำรวจสกัดกั้นข้ามจังหวัด
ตำรวจทางหลวงแพร่ สกัดรถต้องสงสัยขโมยทองคำมูลค่า 30 ล้านบาท และรางวัลสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลมูลค่า 8 แสนบาท หลังเจ้าของทองชื่อดังในจังหวัดน่านโร่แจ้งความน้องชายขนทองคำของกงสีหนีออกจากบ้าน หวั่นได้รับอันตราย ล่าสุด ทั้ง 2 ฝ่ายเคลียร์กันลงตัวเป็นปัญหาในครอบครัว
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.00 น. สภ.เวียงสา จังหวัดน่าน ได้รับแจ้งจาก น.ส.เพ็ญสินี (นามสมมุติ) อาศัยอยู่ที่ อ.เวียงสา จ.น่าน ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่า ช่วงกลางคืนวันที่ 2 กรกฎาคม 2566 ไม่ทราบเวลาที่แน่ชัด น้องชายของผู้แจ้ง ได้นำเอาทองคำรูปพรรณและทรัพย์สินภายในร้านมูลค่า 30 ล้านบาท และฉลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัล มูลค่าประมาณ 800,000 บาท ไปในคืนวันที่ 2 ก.ค. 2566 โดยใช้พาหนะรถยนต์ BMW สีดำทะเบียนกรุงเทพฯ
ต่อมา เวลา 09.30.น. ของวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สีหราช สุคันธมาลา สว.ส.ทล.6 กก.5 บก.ทล.ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือให้สกัดรถยนต์ BMW สีดำ ซึ่งนำทรัพย์สินเงินทองติดตัวไปเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ เกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายหรือถูกล่อลวง จึงได้สั่งการให้ รถวิทยุตรวจเขตหน่วยบริการตำรวจทางหลวงเด่นชัย อ.เด่นชัย จ.แพร่ นำโดย ร.ต.ท.ศุกรีย์ ปะละใจ ด.ต.สมภพ ข้ามเจ็ด ด.ต.ปราการณ์ สองศรีโย ด.ต.วีระ บุญชู ด.ต.จารุกิตติ์ พูลสวัสดิ์ ตรวจสอบในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ต่อมาพบรถยนต์ BMW สีดำ หมายเลขทะเบียนซึ่งเลขทะเบียนใกล้เคียงกับรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่ร้านกาแฟ “เก๊าไม้กาแฟสด” ริมทางหลวงแผ่นดิน ทล.11 กม.359 จึงลงจากรถไปตรวจสอบที่ร้านดังกล่าวพบผู้ขับขี่ชื่อตรงตามที่รับแจ้ง พ.ต.ท.สีหราช สุคันธมาลา สว.ส.ทล.6.กก.5 บก.ทล. จึงโทรศัพท์ประสานแจ้งให้ญาติ( ผู้แจ้ง) ว่าพบบุคคลดังกล่าวแล้วได้สอบถามข้อมูลและทรัพย์สินดังกล่าวยืนยันว่าเป็นของกงสีอยู่ครบถ้วนภายในรถ
จึงแจ้งให้ผู้แจ้งมาพูดคุยและตกลงกันได้และได้เดินทางกลับไปที่บ้าน จ.น่าน และทั้งสองฝ่ายขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงทุกนายที่เป็นธุระดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อย
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว พ.ต.ท.สีหราช สุคันธมาลา สว.ส.ทล.6 กก.5 บก.ทล.เผยว่า หลังจากได้รับทราบเรื่องจึงได้สั่งการให้รถวิทยุตรวจเขตหน่วยบริการตำรวจทางหลวงเด่นชัย ได้ดำเนินการตรวจสอบและพบรถยนต์ลักษณะที่แจ้งไว้แต่ทะเบียนรถไม่ตรงกับที่แจ้งไว้แต่ใกล้เคียงจึงทำการตรวจสอบก็เป็นบุคคลที่แจ้งไว้จึงได้ประสานทางด้านเจ้าทุกข์มาพบและตกลงกันได้