‘𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓’ เทศกาลหนังสือเพื่อเสรีภาพ 28 ก.ค.- 6 ส.ค.นี้

เปิดตัวมหกรรมหนังสือน้องใหม่ ‘𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘เทศกาลหนังสือเพื่อเสรีภาพ’ หวังเป็นพื้นที่ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ผ่านหนังสือ ดนตรี ศิลปะ และผู้คน ในรูปแบบ Book Fair & Art Festival ที่ไม่เหมือนใคร พบปะสำนักพิมพ์ชั้นนำ-ร้านขายสินค้าแฮนด์เมดมากกว่า 200 บูธ เวทีเสวนาจากนักเขียนนักแปลคนโปรด เวิร์กช็อปดีไอวายสุดคูล ชุมนุมคนรักบอร์ดเกม ขบวนพาเหรดของเหล่าแฟชันนิสตา ชมนิทรรศการศิลปะ ฟังดนตรีสดจากศิลปินอินดี้ จนถึงกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ ระหว่างวันที่ 28 ก.ค.- 6 ส.ค. นี้ เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ)

สำหรับนักอ่านแล้วคงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าการมาถึงของ ‘มหกรรมหนังสือ’ ที่สำนักพิมพ์ต่างๆ จะมาออกบูธขายหนังสือเก่าใหม่นับพันเล่ม ได้พบปะขอลายเซ็นนักเขียนชื่อดัง รวมถึงเดินเลือกซื้อเลือกหาพ็อกเกตบุ๊กเล่มโปรด พลางหยิบเล่มนั้นเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน พลางสูดดมกลิ่นหอมของกระดาษด้วยความเพลิดเพลินใจ

เร็วๆ นี้กำลังจะมีงานหนังสือน้องใหม่เกิดขึ้นอีกงานหนึ่ง โดยตั้งใจให้เป็นทางเลือกอันหลากหลายแก่นักอ่าน ขณะเดียวกันก็หวังสร้างสีสัน เติมความคึกคัก ปลุกชีวิตชีวาให้แก่วงการสิ่งพิมพ์ไปด้วยพร้อมกัน

งานนี้มีชื่อว่า ‘𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓’ จัดโดยสำนักพิมพ์ยิปซีร่วมกับ Book Festival ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘เทศกาลหนังสือเพื่อเสรีภาพ’ เปรียบเสมือนพื้นที่อิสระของเหล่าเสรีชนผู้ต้องการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ผ่านหนังสือดนตรี ศิลปะ และผู้คน

ไฮไลต์ที่ทำให้ 𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓 เป็นมากกว่ามหกรรมหนังสือทั่วไป คือธีมงานที่มาในรูปแบบ Book Fair & Art Festival บรรยากาศเปี่ยมด้วยสีสันสดใส ไอเดียสร้างสรรค์ และอิสรเสรีในการแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นร้านขายสินค้าแฮนด์เมดและของที่ระลึก อาหารอร่อยๆ จากสตรีทฟู้ด เวทีเสวนากับนักเขียนนักแปลชื่อดัง บุ๊กคลับรีวิวหนังสือเล่มโปรด เวิร์กช็อปดีไอวายเย็บปักถักร้อย ล้อมวงเล่นบอร์ดเกม ขบวนพาเหรดของเหล่าแฟชันนิสตา ชมนิทรรศการศิลปะ ฟังดนตรีสดจากศิลปินอินดี้ รวมถึง Kids Zone กิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ

𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓 ยังถือเป็นการกลับมาอีกครั้งของมหกรรมหนังสือที่จัดขึ้น ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์(สถานีกลางบางซื่อ) หลังเคยประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมกับสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 50 ในช่วงโควิด-19 เมื่อต้นปี 2565

คธาวุฒิ เกนุ้ย กรรมการผู้จัดการสำนักพิมพ์ยิปซี ในฐานะตัวแทนผู้จัดงาน 𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓 เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการจัดงานหนังสือครั้งนี้ว่า เป็นความฝันเล็กๆ ตั้งแต่เริ่มต้นทำสำนักพิมพ์เมื่อ 15 ปีก่อนแล้วว่า สักวันหนึ่งอยากจะเปิดพื้นที่ให้กองคาราวานหนังสือจากทั่วทุกสารทิศได้มารวมตัวกัน

“แรงบันดาลใจมาจากหนังสือชื่อ ‘รถหนังสือเร่ของคนพเนจร’ ของ คริสโตเฟอร์ มอร์ลีย์ เรื่องราวของพ่อค้าแม่ค้าขายหนังสือเร่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ยุคที่ยังต้องเดินทางไปเคาะประตูตามหมู่บ้านต่างๆ เพื่อนำเรื่องเล่าแสนสนุกประสบการณ์น่าตื่นตาตื่นใจไปมอบให้ผู้คน ช่วยเปิดโลกให้กว้างขึ้นด้วยความรู้ใหม่ๆ 𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓 จึงเปรียบเหมือนจุดรวมพลของกองคาราวานต่างๆ เป็นสถานที่พบปะของกลุ่มคนที่รักอิสระ

“คำว่ายิปซีในที่นี้ อยากให้นึกถึงพวกยิปซีในวรรณกรรมอมตะเรื่อง ‘หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว’ ของ กาเบรียลการ์เซีย มาร์เกซ ทุกครั้งเวลาพวกยิปซีเดินทางมาถึงเมืองมาคอนโดก็มักจะนำเรื่องเล่าจากโลกที่สาม นำข้าวของประหลาดๆ ติดตัวมาด้วย บางครั้งก็เป็นน้ำแข็ง บางครั้งก็เป็นแม่เหล็ก หรือบางคราวก็นำวิชาเล่นแร่แปรธาตุ นำความรู้ใหม่ๆ มาถ่ายทอดเล่าสู่กันฟัง ผมจึงถือว่ายิปซีคือชนเผ่ามหัศจรรย์

“งาน 𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓 ครั้งนี้ สำนักพิมพ์ต่างๆ เกือบ 100 สำนักพิมพ์ ต่างก็มีเรื่องเล่าแปลกใหม่ของตัวเองบางคนชอบเรื่องประวัติศาสตร์ บางคนชอบวรรณกรรม บางคนชอบสังคมการเมือง บางคนชอบนิยายวาย บางคนชอบการ์ตูนคอมิก บางคนชอบศิลปะ บางคนชอบดนตรี เมื่อทุกอย่างมาบรรจบกับสถานที่จัดงานนั่นคือ สถานีกลางบางซื่อซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการเดินทางของผู้คนจากทั่วประเทศ งานหนังสือครั้งนี้จึงไม่ต่างจากชุมทางของชนเผ่ายิปซีครั้งมโหฬารที่พากันเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศ”

นอกจากสำนักพิมพ์นับร้อยที่จะมาออกบูธกันอย่างคึกคัก พร้อมขนคาราวานหนังสือหลากหลายแนว ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง ธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ ฮาวทู วรรณกรรมไทย วรรณกรรมแปล หนังสือเด็กและเยาวชนนิยายวาย การ์ตูนคอมิก ไลต์โนเวล หนังสือต่างประเทศ หนังสือมือสอง รวมถึงเเบบเรียน สื่อการศึกษา และของเล่นเสริมทักษะ ยังมีโซนกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ประกอบด้วย

Freedom ประตูผ่านเข้าสู่งาน 𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓 สำหรับนักอ่านที่เดินทางด้วย MRT ทันทีที่ขึ้นมาด้านบนของสถานีก็จะได้พบกับความคัลเลอร์ฟูลของงาน สีสันสดใส ผู้คนเดินขวักไขว่ทั่วงาน ประกาศให้โลกรู้ว่าคุณกำลังก้าวเข้าสู่หนึ่งในเทศกาลหนังสือที่สนุกที่สุดของปี 2023

Free Speech กิจกรรมจัดเต็ม ณ เวทีกลางงาน 𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓 ที่จะเปิดโอกาสให้นักอ่านกระทบไหล่กับนักเขียนคนโปรด แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น มุมมองในด้านต่างๆ ทั้งในเรื่องวรรณกรรม ประวัติศาสตร์ สังคมการเมือง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Random Dance และ Dress Up Yourself ในวันเสาร์-อาทิตย์แรก และเสาร์-อาทิตย์สุดท้ายของงาน ให้คนที่ชื่นชอบสายแฟนซีและเอนเตอร์เทนเมนต์เข้ามาร่วมสนุก และอาจจะได้รับของที่ระลึกน่ารักๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านกันด้วย

Freestyle พื้นที่นี้จะชวนคุณมาปลดปล่อยความเป็นตัวคุณกับหนังสือหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่นวนิยาย สารคดีประวัติศาสตร์ การ์ตูน ไลต์โนเวล LGBTQ+ ฯลฯ มาค้นหาความชอบและก้าวข้ามพรมแดนความรู้ใหม่ๆ ที่นี่ได้เลย

Free Mind อีกหนึ่งโซนสำหรับนักกิจกรรม นักชอปสายชิล และครอบครัวนักอ่าน สำหรับคนที่ชอบเดินละเลียด ค่อยๆหยิบหนังสือทีละเล่ม ใช้เวลากับหนังสือตรงหน้านานๆ ก่อนตัดสินใจ เดินกันได้ชิลๆ และหากเหนื่อยจากการชอปปิง ก็มีโซนกิจกรรมและเวิร์กช็อปไว้ให้เราระเบิดไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ และอาจจะได้งานศิลปะที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกติดไม้ติดมือกลับบ้านก็ได้

โต๊ะก็คือโต๊ะ ART MARKET โซนเอาใจสายชอป มีร้าน Art and Craft กว่า 30 ร้าน โดยเฉพาะสินค้าแฮนด์เมดหลากหลายแบบให้เลือกซื้อ ทั้งงานเย็บปักถักร้อย โปสต์การ์ด สติกเกอร์ เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องปั้นเซรามิกสวยๆ และน่ารักทั้งนั้น แบบนี้จะห้ามใจยังไงไหว เรียกได้ว่าเป็นจุดละลายทรัพย์ดีๆ อีกหนึ่งจุดเลยทีเดียว

Food & Drinks ถ้าท้องเริ่มร้องแล้วต้องรีบมาโซนนี้เลย เป็นโซนสำหรับพักขาและเติมพลังของทุกคน เดินชอปหนังสือและเอ็นจอยกับกิจกรรมแล้ว ก็แวะมาเติมพลัง มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม และร้านค้ามากมายที่จะมามอบความอร่อยให้กับทุกคน กินให้อิ่มท้อง แล้วไปเดินย่อยในงานต่อกันเลย

“ถ้าพูดถึงตลาดหนังสือเมืองไทย ผมมองว่าปัจจุบันคนทำหนังสืออยู่ยากขึ้น เพราะพื้นที่ขายหนังสือน้อยลงกว่าเมื่อก่อนเยอะ ร้านหนังสือสแตนด์อะโลนจากที่สมัยหนึ่งเคยมีเกือบพันแห่ง เดี๋ยวนี้เหลือไม่ถึงร้อย บางจังหวัดแทบไม่มีร้านหนังสือเหลืออยู่แล้ว ร้านที่ยังอยู่ก็พอขายได้โดยเฉพาะทางออนไลน์ ส่วนมหกรรมหนังสือทุกวันนี้ทั่วประเทศมีไม่ถึง20 งาน ผมว่าถ้ามีงานหนังสือใหม่ๆ เกิดขึ้นมันก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่คนอ่าน แถมยังช่วยสร้างความคึกคักให้วงการด้วย ที่สำคัญยิ่งไปกว่าการเป็นพื้นที่ซื้อขายหนังสือแล้ว ยังทำให้สำนักพิมพ์ต่างๆ ได้มาเจอหน้าค่าตากันพร้อมกับนั่งพูดคุยกันว่าเราจะเดินทางกันต่อไปอย่างไรในอนาคต บรรดานักเขียนก็ได้มาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กัน นักอ่านก็ได้เดินเลือกดูเลือกซื้อหนังสือในราคาพิเศษ

“ที่ผ่านมาเรามักติดกับกรอบเดิมๆ ว่ามหกรรมหนังสือต้องมีแต่หนังสือ มีแค่สำนักพิมพ์กับคนอ่าน ผมอยากเห็นงานหนังสือที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นบูธที่เต็มไปด้วยกองหนังสือสูงท่วมหัว ฟังดนตรีสดๆ จากน้ำเสียงใหม่ๆ ของศิลปินรุ่นใหม่ รื่นรมย์กับนิทรรศการศิลปะ เก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์บนเวทีเสวนาจากเหล่าคนดังล้อมวงเล่นบอร์ดเกม พ่อแม่ลูกเข้าร่วมเวิร์กช็อปดีไอวาย การแสดงของศิลปินแขนงต่างๆ แม้กระทั่งการพบปะสังสรรค์ของกลุ่มคนที่ลุ่มหลงในสิ่งเดียวกัน อาทิ กลุ่มคนรักประวัติศาสตร์ ชอบสะสมของเก่า ชอบนิยายวาย หรือแต่งคอสเพลย์

“𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓 จึงเป็นงานหนังสือซึ่งจะดึงดูดคนที่กำลังมองหาอะไรที่แปลกใหม่ไม่เหมือนเดิม พร้อมกระโจนเข้าหาประสบการณ์เจ๋งๆ กระโดดโลดเต้นอย่างอิสระและเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ภายใต้บรรยากาศแห่งเสรีภาพ” คธาวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับวิธีการเดินทางไปงาน 𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓 เทศกาลหนังสือเพื่อเสรีภาพ เดินทางง่าย ไปได้หลายวิธี จะไปด้วยขนส่งมวลชนหรือมาด้วยรถส่วนตัวก็ง่ายนิดเดียว

- เดินทางด้วย MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานีบางซื่อ ทางออกที่ 3

- เดินทางด้วยรถไฟฟ้าชานเมือง (รถไฟฟ้าสายสีแดง) ลงที่สถานีกลางบางซื่อ ทางออกที่ 3 และ 4

- เดินทางด้วยรถเมล์ สาย A1, 3, 16, 26, 49, 67, 77, 97, 134, 136, 138, 145, 204, 509, 517, 536 และ Shuttle Bus (ฟรี) เข้าประตู 10, 11 และ 12

- เดินทางด้วยรถส่วนตัว สามารถจอดรถได้ในลานจอดรถชั้นใต้ดิน (ชั้น B1) ของสถานีกลางบางซื่อส่วนรถจักรยานยนต์ให้จอดบริเวณหน้าอาคารประตู 4 ฝั่งทิศตะวันออก แล้วเดินเข้าทางเข้าประตู 4 (ไม่เสียค่าบริการ)

เมื่อเดินทางมาถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์แล้ว งานหนังสือ 𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊 𝐅𝐄𝐒𝐓 จัดที่ชั้น G ฝั่งทิศใต้ สามารถเข้า ‘ทางหลัก’ ได้ที่ประตู 1 และประตู 10

มาร่วมปลดปล่อยอิสระทางความคิด โบยบินไปในบรรยากาศแห่งเสรีภาพได้ที่งานมหกรรมหนังสือ ‘𝐆𝐘𝐏𝐒𝐘 𝐁𝐎𝐎𝐊𝐅𝐄𝐒𝐓’ ตลอด 10 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม ถึง 6 สิงหาคม 2566 เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ บริเวณชั้น G สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ)