เชียงราย ทองปลอมระบาดหนัก มิจฉาชีพตีตราเหมือนจริงข้ามมาจำนำฝั่งไทย
เชียงราย - เตือนระวังแก๊งมิจฉาชีพ จากประเทศเพื่อนบ้าน ทำทองปลอมตีตราเหมือนจริง ข้ามมาจำนำฝั่งไทยระบาดหนัก
เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2566 เวลา 08.00 น. สถานีตำรวจอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายได้นำ ทองปลอม มาขายที่ ร้านทอง หน้าตลาดนายบุญยืน อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงนำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุร้านทองแห่งหนึ่ง แต่ไม่พบคนร้ายจึงประสานไปยังตำรวจทุกหน่วย ให้เฝ้าติดตามชายรูปพรรณสันฐานตามกล้องวงจรปิด พร้อมหลักฐานบัตรประชาชนคนร้ายทิ้งไว้เป็นหลักฐานที่ร้าน ชื่อนายรุ่งศักดิ์ อายุ 32 ปี อาศัยอยู่ที่ ต.บ้านแก้ง อ. ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และพร้อมประสานไปยังตรวจคนเข้าเมืองบริเวณหน้าด่านพรมแดน สะพานข้ามพรมแดนไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 อ.แม่สาย ต่อมาเพียงไม่กี่นาที ได้รับรายงานว่าคนร้ายได้ผ่านด่านพรมแดนข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
ต่อมาไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ได้รับแจ้งว่าพบชายหญิงชาวเมียนมา 2 คน ได้นำ ทองรูปพรรณปลอม มาจำนำร้านทองอีกแห่ง เจ้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย จึงนำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างจากร้านทองที่เกิดเหตุไปราว 150 เมตร พบชายหญิงยืนอยู่หน้าร้าน ซึ่งทางเจ้าของร้านไม่รับจำนำ
จากการสอบถามชายไม่ทราบชื่อ เป็นชาวเมียนมา ที่นำทองปลอมมาจำนำ เป็นกำไลทองหนัก 1 บาท 2 ชิ้น โดยชายดังกล่าวอ้างว่า ตนเองได้เข้าไปเล่นในบ่อนคาสิโนประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีคนเล่นอยู่ด้วยกันในบ่อน อ้างว่าเสียเงินจึงขอนำกำไลทองคำจำนำไว้ที่ตนเอง ซึ่งตนเองดูทองก็ไม่เป็น เห็นว่าจำนำในราคาถูกจึงรับไว้ ต่อมาได้ข้ามเอามาจำนำยังร้านทองฝั่งอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย จึงรู้ว่ากำไลทองเป็นของปลอม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หวั่นเป็นพวกแก๊งมิจฉาชีพที่นำทองปลอมข้ามมาจำนำฝั่งไทย
ด้านนางซือกิมเฮง เล่าว่า ชายหญิง 2 คนที่จะเอากำไลทองมาจำนำที่ร้าน ดูแล้วว่า กำไลทองคำมีความแข็ง ถ้าเป็นทองจริงจะต้องอ่อนนิ่มกว่านี้ หากเป็นกำไลทองหนัง 1 บาทแท้ จะไม่สามารถใส่ที่ข้อมือได้ เพราะมันจะอ่อนนิ่ม ทำให้หล่นหายง่าย ซึ่งทางประเทศเพื่อนบ้านมีการระบาดหนักมาก นำทองปลอมไปจำนำร้านและคนทั่วไป จะดูความแตกต่างไม่ออก ทองจริง หรือทองปลอม
ถือว่าที่เอาข้ามมาจำนำวันนี้ ถือว่าทำเหมืองจริงมา เหตุที่ทางร้านทองบางร้านไม่สามารถรู้ได้ เกิดจากเวลาจำนำทอง ไม่สามารถเผาทองดูข้างในได้ แต่ถ้าขายให้ทางร้าน ก็สามารถนำไปเผาดูได้ ถึงจะรู้ว่าเป็นของปลอมของจริง ก็อยากจะเตือนคนที่รับซื้อทองด้วย
ด้านร้านที่เกิดเหตุครั้งแรก เจ้าของร้านกล่าวว่า ตามคลิปกล้องวงจรปิด คนร้ายเป็นชายคนเดียวกัน เมื่อวานที่ผ่านมาคนร้ายได้นำกำไลทองคำหนัก 2 บาท มาที่ร้าน 1 ครั้ง ทางร้านได้เสนอราคาไป แต่คนร้ายดูเหมือนไม่พอใจในราคาที่ให้จึงไม่จำนำ และออกจากร้านไป
และมาวันนี้ตามคลิปกล้องวงจรปิด คนร้ายก็ได้นำกำไลหนัก 1 บาท พร้อมแหวน 50 สตางค์เข้ามาจำนำที่ร้าน ด้วยที่ทางร้านสังเกตเห็นว่า มีตราประทับร้านเหมือนจริงมาก อีกทั้งไม่สามารถเผาดูได้ ลูกค้าเอามาจำนำกลัวของลูกค้าจะเสียหายจึงรับไว้ในราคา 42,000 บาท
แต่พอคนร้ายไปจึงเอะใจว่าทองมันแวววาว จึงได้ตะไบดูจึงรู้ว่าเป็นทองปลอม ซึ่งเชื่อได้ว่า คนร้ายต้องเป็นขบวนการ และเป็นช่างทอง มีความรู้เรื่องทองรูปพรรณเป็นอย่างดี จึงปลอมออกมา และรู้ว่าต้องเอามาจำนำอย่างเดียว ไม่ขาย หากขายทางร้านจะต้องเผาดู